"รสนา" จี้ "ปู" ลาออกนายกฯ ให้ "ประชา" ขึ้นแทน

"รสนา" จี้ "ปู" ลาออกนายกฯ ให้ "ประชา" ขึ้นแทน

"รสนา" จี้ "ปู" ลาออกนายกฯ ให้ "ประชา" ขึ้นแทน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ผ่าน สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ เมื่อเวลา 14.35 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน ถึงกรณีที่ศาลวินิจฉัย กรณีที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานรัฐสภา กับพวก รวม 312 คน ร่วมกันเข้าชื่อเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาของ ส.ว. ขัดต่อมาตรา 68 ตามรัฐธรรมนูญว่า คำวินิจฉัยเป็นไปตามที่พวกตนในฐานะผู้ร้องร้องไป เพื่อให้ร่างแก้ไขดังกล่าว เป็นโมฆะ แต่ไม่ได้เรียกร้องเรื่องการยุบพรรค ซึ่งถือว่าคำวินิจฉัยของศาลที่ออกมา สร้างความพอใจให้กับตนเองแล้ว

ส่วนกรณีที่ ส.ว.บางคน ไปยื่นถอดถอน 310 ส.ส. กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไว้ก่อนแล้วนั้น น.ส.รสนา ระบุ ป.ป.ช.ก็ต้องนำคำวินิจฉัยวันนี้ของศาลรธน.ไปประกอบในคำพิจารณา

ทั้งนี้ ส.ว.กรุงเทพฯ ยังแสดงความเห็นถึงกรณีความรับผิดชอบ ของทั้ง 312 ส.ส.และส.ว. ที่ให้ผ่านร่างแก้ไขรธน. ที่ตกไปว่า ความรับผิดชอบทางการเมืองของนักการเมืองในประเทศไทยยังไม่ค่อยมี ต้องใช้ข้อกฏหมาย ซึ่งที่ผ่านมาก็เห็นอยู่แล้ว ร่างแก้ไข รธน.ดังกล่าวยังไม่เรียบร้อย ยังไม่มีการรับรองอย่างถูกต้อง พวกตนเองก็ท้วงติงมาตลอด แต่ยังมีการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ให้ทรงลงพระปรมาภิไธยอีก ดังนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ต้องแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งไม่ได้แปลว่าจะให้ยุบสภาฯ แต่ให้ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากประเทศอื่นๆ อย่างเช่น ญี่ปุ่น ก็ยังมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ หลายครั้ง แม้จะมาจากพรรคการเมืองเดียวกันก็ตาม ตนเห็นว่าในพรรคเพื่อไทยมีบุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถหลายคน ที่พร้อมจะมาปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีได้ อย่างเช่น พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ก็อาจจะให้มาเป็นนายกฯ แทนได้

อย่างไรก็ตาม น.ส.รสนา ยังระบุว่า การเสียบบัตรแทนกันของ ส.ส. ในสภาฯ ที่ผ่านร่างแก้ไขรธน. จนกระทั่งศาลวินิจฉัยว่ามีความผิดนี้ ถือเป็นบทเรียน คนเราถ้าหากมีเสียงข้างมากในสภา อาจนึกว่า มีอำนาจมากจนไม่สามารถทำอะไรไปตามกฎหมาย ก็จะนำไปสู่การกระทำที่ผิดพลาดในครั้งนี้

"พวกเรามีการทักท้วงตั้งแต่มีการแก้ไขรธน. ทักท้วงตลอดเวลา แต่เสียงข้างมากไม่ฟัง การมีเสียงข้างมากไม่ใช่ว่าจะทำได้ถูกต้องเสมอไป ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย และหลักนิติธรรมต่อไป"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook