เกาะติดคำตัดสินศาลรธน.!อำนวย-รสนาพอใจศาลตัดสิน

เกาะติดคำตัดสินศาลรธน.!อำนวย-รสนาพอใจศาลตัดสิน

เกาะติดคำตัดสินศาลรธน.!อำนวย-รสนาพอใจศาลตัดสิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประธานวิปรัฐ เริ่มเสียงอ่อย รับ-ไม่รับ คำตัดสินศาล รธน. บอกรอศึกษารายละเอียดคำตัดสิน ก่อนนัด 312 ส.ส. - ส.ว. สรุปท่าที ด้าน 'รสนา' จี้ นายกฯรับผิดชอบ ขณะ 'อุดมเดช' ชี้ ศาล รธน.ก้าวล่วงนิติบัญญัติมากเกินไป

นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล ซึ่งเป็นตัวแทนของ ส.ส. และ ส.ว. จำนวน 312 คน แถลงไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ได้เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มา ส.ว. ออกมาในรูปแบบที่น่าพอใจ ประเทศชาติ บ้านเมือง เดินหน้าต่อไปได้ แต่ยังต้องรออ่าน และได้ทำความเข้าใจรายละเอียดคำตัดสินของศาลทั้งหมดอีกครั้ง ก่อนที่จะมีการนัดหารือกับ ทั้ง 312 สมาชิกรัฐสภา ในการกำหนดท่าทีต่อไป

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้นัดหมาย ส.ส.ประชุม เพื่อหารือเกี่ยวกับผลคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญด้วย แต่ได้
มีการยกเลิกในภายหลัง

 

'รสนา' พอใจคำตัดสินของศาล-จี้นายกฯ รับผิดชอบ 

น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพมหานคร 1 ในคณะผู้ร้องว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของ ส.ว.ขัดรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า พอใจกับการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ชี้ขาดว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มาของ ส.ว.ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่วนการดำเนินการขั้นต่อไป จะมีการเรียกร้องให้รัฐสภา มีการตรวจสอบ สอบสวนอย่างละเอียด ประเด็นการปลอมแปลงเอกสารของข้าราชการสภา ส่วนเรื่องการกดบัตรแทนกัน เป็นคำร้องของฝั่ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งน่าจะมีการดำเนินการต่อไป ด้วยการยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อไป

พร้อมกันนี้ ส.ว.กรุงเทพมหานคร ยังเรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว เพราะถือว่าการตัดสินของศาล ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เสียงข้างมากในสภา ไม่สามารถทำสิ่งผิดให้เป็นถูกได้

 

"อุดมเดช" ชี้ ศาล รธน.ก้าวล่วงนิติบัญญัติมากเกินไป

นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ที่ปรึกษาวิปรัฐบาล ในฐานะผู้เสนอร่างแก้รัฐธรรมนูญที่
มาของ ส.ว. เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างแก้ไขขัดรัฐธรรมนูญ
มาตรา 68 ว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ก้าวล่วงฝ่ายนิติบัญญัติมากเกินไป จากการที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กระบวน
การการทำหน้าที่ของ ส.ส. และ ส.ว. โดยตัดสินว่าการแก้ไขดังกล่าว กระทำผิดรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้ตัดสิทธิ์
การเป็น ส.ส.หรือยุบพรรคแต่อย่างใด

โดยทางกลุ่ม ส.ส.และ ส.ว. 312 คน ยังคงมีท่าทีที่จะไม่ยอมรับคำตัดสินของศาล แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เนื่องจากขั้นตอนต่างๆ พ้นอำนาจหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติไปแล้ว เพราะได้มีการนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขึ้นทูลเกล้าฯ ไปแล้ว และถือว่าได้ทำอย่างครบถ้วนถูกต้องแล้ว ทั้งนี้อยู่ในดุลพินิจของสำนักราชเลขาธิการสำนักพระราชวัง

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ก็ได้มีการนัดหมาย ส.ส.ของพรรค เพื่อประชุมหารือในเรื่องดังกล่าว
กันในวันนี้

 

'ชวลิต'ขอเงียบ ไม่ขอแสดงความเห็นคำตัดสินศาล รธน.

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคเพื่อไทย ปัดตอบและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ และข้อเรียกร้องของหลายฝ่าย ที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรี ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ กรณีศาลวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มา ส.ว. ขัดรัฐธรรมนูญ แต่ พล.อ.ชวลิต ไม่ยอมรับสาย โดยให้คนสนิทรับสายแทน และให้แจ้งว่า ไม่ได้อยู่ในฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ไม่ขอแสดงความคิดเห็น ขอเงียบไว้ก่อน

 

ป.ป.ช.นัดถกปมถอดถอน'สมศักดิ์-นิคม'วันนี้

ศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ในวันนี้ คณะกรรมการฯ จะนำเรื่องการถอดถอน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เข้าสู่วาระการประชุม เป็นวาระเร่งด่วน เนื่องจากผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ แก้ที่มา ส.ว.ขัดมาตรา 68 และระบุว่าบุคคลทั้งสองได้กระทำการไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ดังนั้น ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงนำผลคำวินิจฉัยดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาถอดถอนได้จึงถือเป็นข้อมูลหลักฐานเพียงพอ ที่จะทำให้ ป.ป.ช. สามารถดำเนินการในขั้นไต่สวนต่อไป

ส่วนจะมีการลงมติจากที่ประชุมเห็นชอบให้ดำเนินการไต่สวนได้ทันทีหรือไม่ขึ้นอยู่กับมติที่ประชุม สำหรับกรอบระยะเวลาจะชี้มูลความผิดถอดถอนได้เมื่อไรนั้น ยังไม่สามารถตอบชัดเจนได้ แต่หากพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงเพียงพอ ก็สามารถนัดวินิจฉัยชี้มูลได้ทันที

 

ตร.ยังตรึงกำลังศาล รธน.ประเมินม็อบยกระดับพรุ่งนี้

พ.ต.อ.พงษ์ สังข์มุรินทร์ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สถานการณ์ล่าสุดที่บริเวณ ศาล รธน. เช้านี้ แม้ว่าจะมีการอ่านคำวินิจฉัยไปเมื่อวานนี้ก็ตาม แต่ทาง ตำรวจยังคงตรึงกำลังเอาไว้ดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณรอบศาล และในศาล รธน. ไว้ก่อน แต่มีการปรับลดกำลังลงตามความจำเป็น โดยถอนกำลัง ตร.ปจ. บก.น.2 จำนวน 1 กองร้อย ออกไปก่อน คงเหลือ ตร.ปจ. ของ ตร.ภ.1 ไว้ 3 กองร้อย

โดยคาดการณ์ว่า จะรอดูสถานการณ์ในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) ที่ม็อบแต่ละม็อบจะประกาศยกระดับ พร้อมกับ กลุ่มคนเสื้อแดง (นปช.) จะรวมตัวกันอีกครั้งด้วย ซึ่งล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับคำวินิจฉัยของศาล รธน. ด้วย จึงจำเป็นต้องคงกำลังเอาไว้ก่อน

 

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook