นายกฯ FB กำชับ จนท.ยึดหลักสากลยันฟังทุกฝ่าย

นายกฯ FB กำชับ จนท.ยึดหลักสากลยันฟังทุกฝ่าย

นายกฯ FB กำชับ จนท.ยึดหลักสากลยันฟังทุกฝ่าย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี FB กำชับ จนท. ยึดหลักสากล ยันฟังทุกฝ่าย ขอม็อบสงบ วอนถกเวทีปฏิรูป ด้าน 'ประชา' ย้ำ รัฐจะไม่ใช้อาวุธ-ตร. ปราบม็อบเด็ดขาด ยันไม่มีอาวุธในคลังหาย ขณะยังไม่พิจารณาขยายพื้นที่ พ.ร.บ.มั่นคงเพิ่ม

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของรัฐสภาให้วุฒิสมาชิกมาจากการเลือกตั้ง ตลอดจนการชุมนุมของประชาชนที่สะท้อนแนวคิดหลากหลาย ที่หาข้อยุติไม่ได้ จึงทำให้เกิดความกังวลต่อเรื่องดังกล่าว ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง ยืนยันที่จะรักษากติกา และพร้อมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในทุกเสียง เพื่อร่วมกันหาแนวทางออกของปัญหาร่วมกัน ในฐานะรัฐบาล ไม่ต้องการเห็นภาพของการทะเลาะเบาะแว้งจนนำไปสู่ความรุนแรง

จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ดูแลความสงบเรียบร้อย บริหารจัดการด้วยความละมุนละม่อม และเป็นไปตามขั้นตอน วิธีการของมาตรฐานสากล พร้อมเชื่อมั่นว่า ประเทศชาติจะไม่ถึง
ทางตัน หากกระบวนการต่างๆ ยังยึดหลักระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และหากทุกคนหันหน้าเข้าหากัน โดยใช้การพูดคุยด้วยวิถีแห่งสันติ ซึ่งเวทีปฏิรูปการเมือง เพื่อหาทางออกของประเทศที่รัฐบาลได้ริเริ่มไว้

 

ประชา ปัดอาวุธในคลังหายยันถกครม.ทำเนียบ25พ.ย.

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี แถลงปฏิเสธ กรณีมีการเผยแพร่ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ในลักษณะกล่าวหาว่า รัฐบาลไม่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยยืนยันว่า ข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง และขอประชาชนอย่าหลงเชื่อหรือส่งข้อความต่อ เพราะอาจมีความผิดได้ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า รัฐบาลจะไม่ใช้อาวุธหรือกำลังตำรวจเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างเด็ดขาด แต่เป็นการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพนย์สินของผู้ชุมนุม

ส่วนกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศปิดเส้นทางไม่ให้ข้าราชการและคณะรัฐมนตรี เข้าทำงานในทำเนียบรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ ยืนยันว่า ยังสามารถทำงานได้ตามปกติ และไม่จำเป็นต้องหาสถานที่ปฏิบัติงานชั่วคราว ส่วนกระแสข่าว อาวุธสงครามในคลังหน่วยงานราชการหายไปจำนวนมากนั้น ยืนยันว่า ในส่วนของตำรวจไม่มีอาวุธหายไปแต่อย่างใด ส่วนหน่วยงานอื่น ได้กำชับให้มีการตรวจสอบอย่างเร่งด่วนแล้ว พร้อมยืนยัน ยังไม่จำเป็นต้องพิจารณาประกาศหรือขยายระยะเวลาการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพิ่มเติม แต่จะมีการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook