ยิ่งลักษณ์ โต้ทุจริต จวกฝ่ายค้าน "จินตนาการไปเอง"
(28 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงปิดอภิปรายขอชี้แจงในประเด็นที่ยังไม่ได้ตอบผู้อภิปราย โดยเฉพาะข้อกล่าวหาที่ระบุว่าตนเองทำผิดกฎหมาย ไม่ขอพูดถึงบุคคลที่สาม
"การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปไม่ได้ที่นายกฯ จะลอยตัวเหนือปัญหา เพราะหน้าที่สำคัญของผู้บริหารคือการตัดสินใจ ดิฉันไม่ได้ลอยตัวเหนือปัญหาแต่อย่างใด ขอเรียนว่ารัฐบาลเน้นการทำงานแบบบูรณาการ แบบคณะบุคคล มีขั้นตอนระดับนโยบายและปฏิบัติ เราให้ผู้ที่มีความรู้ผู้เชี่ยวชาญทำงานให้เกิดประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ สิ่งที่ผู้อภิปรายในประเด็นส่วนตัวหรือต่างๆ นานา มีประกอบด้วยการจินตนาการ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นตามที่กล่าวหา ทั้งในเรื่องจงใจวางแผนต่างๆเพื่อให้เกิดการทุจริตคอรัปชั่น เรามีการปฏิบัติตาม ป.ป.ช. เน้นยำให้มีการตรวจสอบทุกนโยบาย หากพบมีการกระทำความผิดต้องลงโทษตามขั้นตอน ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ถือนโยบายนี้จะทำผิดเสียเอง"
นายกฯ ระบุว่า ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างของโครงการ 2 ล้านล้านนั้น ก็จะมีการจัดซื้อจัดจ้างไปตามระเบียบพัสดุอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มีกลไกการตรวจสอบ ส่วนที่กล่าวหากว่าหลอกพี่น้องชาวหนองคายก็ไม่จริง เพราะรถไฟฟ้าความเร็วสูงถูกบรรจุไว้ในร่างฯ กู้เงินดังกล่าว ส่วนโครงการน้ำเป็นเพื่อบริหารประเทศ มีกลไกติดตาม ส่วนโครงการรับจำนำข้าวก็จะไม่มีการยกเลิกเพราะเป็นโครงการที่มีประโยชน์ต่อชาวนา ไม่มีการทุจริตในระดับปฏิบัติการแต่อย่างใด และยังได้ตรวจสอบอย่างเคร่งครัดหากพบก็จะลงโทษ ส่วนข้อเสนอต่างๆที่สร้างสรรค์ก็จะนำไปศึกษา อีกทั้งขอยืนยันว่าสภานี้เป็นหนึ่งในเสาหลักที่จะได้ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตย
"สำหรับประเด็นข้อกล่าวหา ทุจริตคอรัปชั่นเรื่องของโครงการรับจำนำข้าว ดิฉันเรียนยืนยันว่าท่านรองนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้องได้เรียนชี้แจงไปแล้ว ก็เรียนว่านโยบายรับจำนำข้าวนั้น เป็นนโยบายที่ดีและมีเจตนารมณ์ที่จะยกระดับรายได้ของเกษตรกร ไม่ได้มีการทุจริตในระดับนโยบายแต่อย่างได อย่างที่หลาย ๆ ท่านได้จินตนาการไป เรียนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง แต่ประเด็นที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริตในระดับปฏิบัติการนั้น ดิฉันได้ให้มีการตรวจสอบอย่างเคร่งครัด ถ้าพบว่ามีการกระทำความผิดจริงก็จะลงโทษตามขั้นตอนทุกอย่าง"
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า นายกฯ ไม่ควรใช้คำว่าจินตนาการ เพราะฝ่ายค้านใช้ข้อมูลหลักฐานอภิปราย เพราะสิ่งที่เรียกว่าการจินตนาการ ก็ยกตัวอย่างเช่น รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพ-โคราช กับกรุงเทพ-หนองคาย ใช้เงินเท่ากัน แบบนี้เรียกว่าจินตนาการ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าวันนี้ 28 พ.ย. เวลา 9.30 น. จะมีการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะต้องได้รับการลงมติเกินกว่ากึ่งหนึ่ง จึงจะได้ดำรงตำแหน่งต่อ
(ภาพประกอบจาก มติชนออนไลน์)