นายกฯเสียงสั่นขอม็อบอย่าดึงไปป์เอี่ยวย้ำพร้อมถกทางออก

นายกฯเสียงสั่นขอม็อบอย่าดึงไปป์เอี่ยวย้ำพร้อมถกทางออก

นายกฯเสียงสั่นขอม็อบอย่าดึงไปป์เอี่ยวย้ำพร้อมถกทางออก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ลั่น ไม่หนีไปต่างประเทศ ไม่ถึงเวลาขอกำลังทหารคุมม็อบ พร้อมขออย่าดึง 'น้องไปป์' บุตรชาย เอี่ยวการเมือง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. ว่า ขอความร่วมมือผู้ชุมนุมอย่าบุกทำเนียบรัฐบาล และสถานที่ราชการ เพราะทำเนียบฯ เป็นสถานที่สำคัญ ที่จะส่งผลกระทบกับการบริหารประเทศ ขณะที่ขอร้อง ไม่อยากเห็นมวลชนของทั้ง 2 กลุ่มทั้งต่อต้านและสนับสนุนรัฐบาลเผชิญหน้ากัน แม้ว่ามีความเห็นที่แตกต่าง แต่ไม่ต้องการให้เกิดการปะทะกันเหมือนเหตุการณ์จราจลในต่างประเทศ พร้อมกันนี้ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณาใช้กฎหมายตามหลักสากล โดยขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางที่มีผู้ชุมนุม เกรงว่าจะมีมือที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ ทั้งนี้ กำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถบริหารจัดการกำลังที่เพียงพออยู่ หากมีความจำเป็นหรือไม่เพียงพอสามารถขอกำลัง เจ้าหน้าที่ทหาร เข้ามาเสริมได้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เหตุการณ์ชุมนุมเรียกร้องขณะนี้ เลยจุดที่จะต้องส่งสัญญาณหรือพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถือเป็นชนวนความขัดแย้ง รวมทั้งมองว่า การลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของตน ก็เลยจุดข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมด้วย แต่หากลาออกแล้วเกิดประโยชน์ต่อบ้านเมือง ตนยินดีที่จะทำอะไรก็ได้โดยไม่มีทิฐิ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ต้องพยายามประคับประคองบ้านเมืองให้เดินหน้าต่อไปได้ และขณะนี้ผู้ชุมนุมต้องการตั้งสภาประชาชนที่เกี่ยวข้องกับการตรากฎหมาย ก็ต้องให้ทุกฝ่ายมาเจรจากัน โดยตนพร้อมและยินดีพูดคุยกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่ม กปปส. แต่ยังไม่มีการตอบรับมาแต่อย่างใด ซึ่งสุดท้ายก็ต้องกลับไปถามประชาชนว่าจะเดินต่อไปอย่างไร

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ถึงเหตุการณ์ที่มีผู้ปกครองโรงเรียนของ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย เป่านกหวีดแสดงการขับไล่บุตรชายของตน ว่า ขอความเห็นใจในหัวอกคนเป็นแม่ ว่าหากมีความเกลียดชังแม่ ขอให้มาแสดงออกที่ตน อย่าไปกระทำกับบุตรชายที่ถือว่าเป็นเด็กเลย

โดยยืนยันว่า ยังไม่มีการย้ายโรงเรียน หรือเปลี่ยนสถานที่ไปเรียนต่างประเทศตามที่มีข่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้เชื่อว่า บุตรชายของตนมีความเข้าใจ และเข้มแข็งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธกระแสข่าวว่า จะมีการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อหนีปัญหา ว่า ตนยังอยู่ใน
ประเทศ ยังทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี แม้ว่าเป็นผู้หญิง ก็ไม่คิดที่จะหนีปัญหาแต่อย่างใด

 


 

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook