ผบ.ทร.ถกผบ.ทัพแล้วย้ำไม่ปฏิวัติวอนทุกฝ่ายหันหน้าคุย
ผู้บัญชาการทหารเรือ เชื่อ สถานการณ์ชุมนุมจะดีขึ้น ลั่น ถก ผบ.เหล่าทัพแล้ว ไม่ปฏิวัติ วอนทุกฝ่ายหันหน้าหาทางออกประเทศ
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง ว่า ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายระดับหนึ่ง เนื่องจากเป็นเพราะ บุญบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทุกฝ่ายได้ตั้งใจน้อมถวาย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ส่วนหลังจากนี้ เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นตามลำดับ จนเข้าสู่ภาวะปกติ แต่จะดำเนินการอย่างไรนั้น ทั้งสองฝ่ายจะต้องคุยกัน ขณะที่ทางทหารก็จะคอยทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย และเป็นตัวกลางในการพูดคุย ซึ่งจะไม่มีการบังคับ หรือชี้นำ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งให้ปฏิบัติตาม
นอกจากนี้ พล.ร.อ.ณรงค์ มีความเชื่อมั่นว่า การแก้ไขความขัดแย้งมีทางออกเสมอ ขึ้นอยู่ว่า ทั้งสองฝ่ายจะหาข้อตกลงกันในทันใด แต่ย้ำกว่า ทางกองทัพจะไม่มีการปฏิวัตรรัฐประหารในทุกรูปแบบ เพราะทหารก็มีบทเรียน ซึ่งได้มีการพูดคุยกันระหว่างผู้บัญชาการเหล่าทัพ ถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ภายหลังวันที่ 5 ธันวาคม ที่จะมีการนัดประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ พล.ร.อ.ณรงค์ ยังไม่ทราบถึงหัวข้อในการพูดคุย แต่คาดว่า จะเป็นการหารือร่วมกันถึงสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน
'อุกฤษ'บอกสภาปชช.ยากไร้กม.รองรับแนะหาสสร.
ศ.ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ หรือ คอ.นธ. เปิดเผยกับสำนักข่าว INN ว่า ขณะนี้ ประเทศมีรัฐธรรมนูญปี 2550 จึงต้องปฏิบัติตามก่อน ขณะเดียวกัน มองว่า การตั้งสภาประชาชน ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่เรื่องดังกล่าว ยังไม่มีกฎหมายรับรอง ดังนั้น จึงมองไม่เห็นว่า จะมีบุคคลใดมีอำนาจในการแต่งตั้ง และคิดว่ายังเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะทำได้ ส่วนการฉีกรัฐธรรมนูญ ปี 2550 สามารถทำได้ แต่สังคมโลกอาจจะไม่ยอมรับ เพราะฉะนั้นจึงเห็นว่า ควรตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร. ตามที่มีการแก้มาตรา 291 แต่ต้องทำให้การคัดเลือกสั้นลง และจบโดยเร็วที่สุด หากใครต้องการเนื้อหาประเด็นใด ก็ให้ทำประชามติ ส่วนการใช้มาตรา 7 ขอพระราชอำนาจในการตัดสินนั้น ส่วนตัวคิดว่ายังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมาตราดังกล่าว ไม่ใช่ยาที่จะรักษาทุกโรค อีกทั้ง การใช้ประชาชนปฏิวัติจะเกิดการสุ่มเสี่ยมต่อการเป็นกบฏ จึงอยากแนะนำให้หาวิธีอื่นแทน เนื่องจากการตั้งมวลชน 1-2 แสนคน เพื่อมาล้มรัฐ ก็จะมีกลุ่มอื่นตั้งขึ้นมาต่อต้าน จนทำให้ประเทศแตกแยกมากขึ้น
'สุจิต'จี้รัฐบาลยุบสภาแนะชัดเป้าหมายปฏิรูป
ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.สุจิต บุญบงการ อาจารย์ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยกับสำนักข่าว INN ว่า ขั้นตอนการแก้ปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้ ยังพบว่าไม่ชัดเจน อีกทั้ง การไว้เนื้อเชื่อใจในรัฐบาลก็เริ่มลดลงแล้ว ดังนั้น การที่รัฐบาล เชิญชวนให้มาร่วมสภาปฏิรูปการเมือง เพื่อหาทางออกประเทศ จึงยังเป็นเรื่องที่ใช้ไม่ได้ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมเลิกเชื่อรัฐบาลแล้ว จึงไม่มีใครฟัง ส่วนกรณีที่รัฐบาล ยอมถอยร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนั้น ถือว่ายังไม่เพียงพอ เพราะเป็นการพักไว้ 180 วัน ส่วนการไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ และการคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมือง รัฐบาลก็ไม่มีการรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว ทั้งที่มีคนบาดเจ็บล้มตาย ดังนั้น จึงอยากให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบก่อน
อย่างไรก็ตาม แนวทางในการแก้ปัญหานั้น ตนเองอยากเสนอให้มีคณะปฏิรูปฝ่ายกลางๆ และฝ่ายต่อต้านร่วมกันคิด เพื่อนำไปปฏิบัติได้จริง ตลอดจนรัฐบาลควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก หรือยุบสภา รวมถึง อยากให้เป้าหมายการปฏิรูป มีความชัดเจน ว่าต้องการให้การเมืองมีรูปร่างเป็นอย่างไร และอย่าพูดเพียงแต่กระบวนการเท่านั้น