สุเทพจี้ยิ่งลักษณ์ ลาออกอ้างนายกฯมาตรา7ทำได้
'สุเทพ เทือกสุบรรณ' ขึ้นเวทีปราศรัย จี้ 'ยิ่งลักษณ์' ลาออก อ้าง นายกฯ มาตรา 7 ทำได้ ย้ำทวงคืนอำนาจอธิปไตย พร้อมระบุ พักการต่อสู้ 1 วัน ลั่น 6 ธ.ค. เตรียมประกาศเผด็จศึกร่วมกัน - ปัดสัมภาษณ์สื่อ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ขึ้นปราศรัยบนเวทีศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยกล่าวว่า เป้าหมายสูงสุดของการต่อสู้คือ การขอคืนอำนาจอธิปไตย เนื่องจากทางรัฐบาลที่นำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใช้อำนาจขัดต่อกฎหมาย ทำเพื่อประโยชน์ของพี่ชาย และครอบครัวตัวเองเท่านั้น จึงเห็นว่า กปปส. มีความชอบธรรม ในการทวงคืนอำนาจ เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองในสถานการณ์ที่ไม่ปกติอย่างนี้
ส่วนกรณีการขอพระราชทานนายกรัฐมนตรี ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 7 นั้น นายสุเทพ ระบุว่า มีบทบัญญัติไว้ว่า ในกรณีที่รัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนเอาไว้ให้วินิจฉัยตามประเพณีของประชาธิปไตย โดยยกตัวอย่างเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ที่เคยมีการใช้อำนาจตามมาตรา 7 มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยขณะที่ในวันพรุ่งนี้ เป็นวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม กปปส. ก็จะมีการจัดงานเฉลิมพระเกียรติอย่างยิ่งใหญ่
นายสุเทพ ยังกล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ กปปส. จะหยุดพักการพูดเรื่องแนวทางการต่อสู้ 1 วัน และหลังจากนั้นเดินหน้าต่อสู้จนกว่าจะได้รับชัยชนะ ซึ่งในช่วงค่ำวันที่ 6 ธันวาคม จะมีการประกาศเผด็จศึกร่วมกัน
ทั้งนี้ ภายหลัง นายสุเทพ ปราศรัยเสร็จสิ้น ได้เดินลงจากเวที และกลับเข้าพักภายในอาคารบี ทันที ไม่มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ ต่อสื่อมวลชน
อย่างไรก็ตาม ที่เวทีการชุมนุมศูนย์ราชการ ตลอดทั้งวันนี้ เป็นไปด้วยความผ่อนคลาย ได้เข้าสู่บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองเนื่องวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม มีการเปิดเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีต่อปวงชนชาวไทย อย่างต่อเนื่อง
ศอ.รส.ขอบคุณกปปส.ปราศรัยคำสุภาพ
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ศอ.รส.แถลงขอบคุณกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. และ คปท.ที่เดินทางมาปักหลักชุมนุมหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุ เป็นแบบอย่างที่ดีของการชุมนุม ซึ่งปราศรัยด้วยถ้อยคำสุภาพ มีการส่วนส่งตัวแทนเข้ามาเจรจาทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างมิตรไมตรี ทางตำรวจเองได้จัดตำรวจชั้นผู้ใหญ่รับข้อเสนอ ทำให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมระบุ ในส่วนของข้อเรียกร้องที่กลุ่มผู้ชุมนุม คือ ให้เร่งรัดคดีเหตุปะทะที่ ม.รามคำแหง และให้ ศอ.รส. กำชับทุกหน่วยงานอย่าใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ล่าสุด พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้รับทราบข้อเสนอดังกล่าวแล้วและได้แต่งตั้งชุดคลี่คลายคดี โดยมี พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าชุด และได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา สบ 10 เป็นหัวหน้าชุดหัวหน้าด้านข้อมูลข่าวสาร ประสานข้อมูลอย่างใกล้ชิดกับกระทรวง ICT ในการตรวจพิสูจน์หลักฐานต่างๆ พร้อมระบุ ในขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่รอบทำเนียบรัฐบาล, สะพานอรมัย, สะพานชมัยมรุเชฐ บาดเจ็บรวม 97 นาย ในจำนวนนี้ สาหัส 2 นาย, หน้า ม.รามคำแหง 4 นาย ส่วนอีก 2 นาย ซึ่งมาจากกองบัญชาการตำรวจภูธรพัทลุง ได้เสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม กรณีกลุ่ม คปท.จะไปชุมนุมที่สะพานชมัยมรุเชฐ ใกล้กับประตูเข้าทำเนียบรัฐบาล ทาง ศอ.รส.ได้เจรจา เพื่อขอให้ไม่ตั้งเวทีการปราศรัย เนื่องจากในวันที่ 7 ธันวาคม รัฐบาลจะมีการจัดงานสโมสรสันนิบาต ซึ้งกลุ่มผู้ชุมนุม คปท.ได้ยินยอมไม่ตั้งเวที และกลับไปที่ชุมนุมแยกนางเลิ้ง ตามเดิมแล้ว
กปปส.ราชดำเนินคึกฟัง'สุเทพ'ขึ้นปราศรัย
บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ที่ถนนราชดำเนิน ล่าสุดหลังที่มีการถ่ายทอดสัญญาณการปราศรัยของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ กปปส. จากเวทีที่ศูนย์ราชการให้กับทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้รับฟัง ขณะที่ประชาชนร่วมรับฟังอย่างหนาตาและต่างชื่นชอบในคำปราศรัย โดยได้มีการเป่านกหวีด ใช้มือตบ อย่างต่อเนื่อง จากนั้น นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ขึ้นเวทีชี้แจงถึงการดำเนินการในวันพรุ่งนี้ ที่จะมีการถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม
ด้านการรักษาความปลอดภัย มีการจัดชุดการ์ดคอยดูแลทุกจุดอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันผู้ที่ไม่หวังดีเข้ามาก่อกวนในบริเวณที่ชุมนุม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ::
เกาะติดม็อบ!กปปส.ไปสตช.ถาวรเข้าเจรจาจี้อยู่ข้างปชช.
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=499558
เกาะติดม็อบ!คปท.ย้ายจากนางเลิ้งปักหลักข้างทำเนียบฯ
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=499613