กปปส.ฮึ่ม! ถกแนวทางกดดัน"อดุลย์"หลังไม่ถอนกำลัง ตร.ใน12ชม.

กปปส.ฮึ่ม! ถกแนวทางกดดัน"อดุลย์"หลังไม่ถอนกำลัง ตร.ใน12ชม.

กปปส.ฮึ่ม! ถกแนวทางกดดัน"อดุลย์"หลังไม่ถอนกำลัง ตร.ใน12ชม.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กปปส.ถกแนวทางกดดัน ผบ.ตร.หลังไม่ถอนกำลังตำรวจภายใน 12 ชม. จี้ ศอ.รส.ตั้ง กก.ร่วม ตรวจสอบความเสียหาย ศูนย์ราชการ

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ที่บริเวณแยกนางเลิ้ง ถนนพิษณุโลก บรรยากาศการชุมนุมในช่วงเช้ายังคงเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีผู้ชุมนุมบางตา ผู้ชุมนุมบางส่วนยังคงพักผ่อน และทำกิจกรรมส่วนตัว ขณะที่กิจกรรมบนเวทียังคงงด

กระทั่งเวลา 10.30 น. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. กล่าวว่า ขณะนี้มีขบวนการสมรู้ร่วมคิดระหว่างนักวิชาการ นักกฎหมาย กับระบอบทักษิณ มีการใส่ร้ายประชาชนที่มาร่วมชุมนุมว่าการชุมนุมเกี่ยวข้องกับสถาบัน รวมทั้งเปรียบเทียบการเคลื่อนไหวของประชาชนกับระบอบทักษิณ มีคำว่าระบอบสุเทพ ซึ่ง กปปส.ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นของประชาชน โดยมีเป้าหมายล้มระบอบทักษิณ และเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประชาธิปไตย ไม่ใช่ทำเพื่อประโยชน์ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. หรือประโยชน์ของคนในพรรคประชาธิปัตย์ จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อขบวนการบิดเบือนของระบอบทักษิณ

นายเอกนัฏ กล่าวอีกว่า กปปส.มีคำสั่งไปยัง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ให้สั่งตำรวจกลับที่ตั้ง เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ของตัวเอง ภายใน 12 ชั่วโมง แต่ พล.ต.อ.อดุลย์ กลับไม่มีคำสั่งให้ตำรวจกลับที่ตั้ง ตามที่ประชาชนเรียกร้อง จึงแสดงให้เห็นว่าวันนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ และตำรวจชั้นผู้ใหญ่กลายเป็นสมุนลิ่วล้อของระบอบทักษิณชัดเจน

ดังนั้นในเวลา 11.30 น. แกนนำ กปปส.จะหารือภายในสนามม้านางเลิ้ง เพื่อกำหนดแนวทางการกดดัน ผบ.ตร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะมีการเคลื่อนขบวนไปยังจุดต่างๆ ส่วนกรณี ศอ.รส.แถลงข่าวว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นกับหน่วยงานภายในศูนย์ราชการนั้น ขอเรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบจากทุกฝ่าย ทั้งตัวแทนจาก กปปส. ตัวแทนสื่อมวลชน รวมทั้งศอ.รส. ไม่ใช่ ศอ.รส.ออกมาแถลงข่าวฝ่ายเดียว เพราะมีการแถลงข่าวใส่ร้ายการเคลื่อนไหวของประชาชนมาโดยตลอด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook