แมทธิวเปิดใจหลงรักแมนเชสเตอร์ ซิตี้นาน5ปี
'แมทธิว' เปิดใจหลงรักทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นาน 5 ปี เผยอยากให้เมืองไทยเอาแบบอย่าง
นักร้อง นักแสดง พิธีกร และนายแบบหนุ่มลูกครึ่งไทย-อังกฤษ "แมทธิว ดีน" ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ว่า หลงรักและติดตามเรือใบสีฟ้ามานาน 5 ปีแล้ว เปิดใจอยากให้เมืองไทยเอาอย่างสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ขุนลูกหม้อมากพลังไว้ในทีม โดยเจ้าตัวเผยว่า "สาเหตุหลักที่ชอบซิตี้ เพราะเป็นทีมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานของอังกฤษ แม้อาจจะมีแฟนคนไทยไม่มากนัก คงเพราะเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ไม่มีผลงานโดดเด่นเท่าไร แต่ผมเชื่อว่าอีกไม่นานจะเป็นทีมขวัญใจคนไทยได้ไม่ยาก โดยเฉพาะช่วงหลังมานี้ มีทางสโมสรได้กระตุ้นให้คนไทยรู้จักมากขึ้น ผมเข้าใจว่าชาวอังกฤษส่วนใหญ่ โดยเฉพาะชาวเมืองแมนเชสเตอร์ ยกให้ซิตี้เป็นทีมอันดับหนึ่งของเขา เพราะเป็นทีมที่เติบโตและให้สาธารณประโยชน์แก่เมือง โดยเฉพาะการนำนักเตะรุ่นเยาว์มาฝึกฝีมือจนเก่งและกลายเป็นนักเตะชั้นนำ"
ส่วนความทรงจำที่ดีกับทีมซิตี้ หนุ่มแมทธิวกล่าวว่า "จำได้ว่าตอนที่ซิตี้ได้แชมป์พรีเมียร์ ลีก ผมตื่นเต้นสุดขีด เรียกว่าเกือบหัวใจวายก็ได้ นี่ขนาดเชียร์อยู่เมืองไทยน่ะ ผมก็ได้ร่วมฉลองให้กับทีมด้วยเลยวันนั้น เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกแต่คือความปลาบปลื้มและภูมิใจมากๆ เซอร์จิโอ้ อากูเอโร่ ยิงได้นิ่งมากจริงๆ เขาปะทะกับคู่ต่อสู้มาหลายต่อ แล้วก็ยิงเข้าประตูไปได้ เขามีความคล่องตัวสูง ซึ่งแน่นอนว่าเขาคือนักเตะเบอร์หนึ่งของผม ความจริงผมชอบเขามาตั้งแต่สมัยเล่นให้แอตเลทิก มาดริดแล้ว พอรู้ข่าวว่าเขาจะย้ายมาอยู่กับซิตี้ ก็ดีใจสุดๆ ผมเห็นแววความสามารถของเขามานานและเชื่อมั่นว่าเขาจะนำชัยให้เรา
หนุ่มแมทธิวเปิดใจต่อว่า นอกจาก อากูเอโร่ ยังมี ไมก้าห์ ริชาร์ด ที่เป็นนักเตะในดวงใจอีกด้วย "บอกตรงๆ ว่าผมชอบแทบทุกคน แต่ละคนก็มีดีกันคนละแบบ แต่ถ้าจะต้องเลือกละก็ ผมชอบนักเตะชาวอังกฤษ ไมก้าห์ ริชาร์ด ซึ่งเป็นกองหลังตัวใหญ่ วิ่งเร็ว เก่งมากๆ ทุกแมตช์ที่เขาเล่นก็เล่นได้ดี ทุ่มเท สิ่งสำคัญที่ผมชอบเขาเป็นพิเศษ เพราะเขาเติบโตมากับทีม มีความผูกพันกับสโมสร ซึ่งนี่เองทำให้เขาทุ่มเทเกินร้อยในการลงเล่นในสนามและการฝึกซ้อม นอกจากนี้ เวลาดูบอลผมสนใจสไตล์การเล่นของแดนหลังครับ เพราะผมก็เล่นบอลเป็นกองหลังเหมือนกัน จึงชื่นชมนักเตะที่ประจำตำแหน่งนี้เป็นพิเศษ
หากถามว่าเวลาที่เห็น "เรือ" ล่มในเกมการแข่ง อาจเพราะความผิดพลาดของนักเตะในทีมหรือสิ่งอื่นๆ รู้สึกอย่างไรนั้น ผมแยกแยะออกครับว่าเกมกีฬาคือเกมที่มีแพ้มีชนะ เราคงไม่ชนะเสมอไปแล้วก็ไม่แพ้ตลอดไปหรอก อีกอย่างเกมฟุตบอลไม่มีอะไรแน่นอนหรอกครับ เราก็รู้ๆ กันอยู่"
สำหรับผู้จัดการทีมคนใหม่ของเรือใบสีฟ้า มานูเอล เปเยกรินี่ นั้น "ผมคิดว่าเขามีประวัติที่ดี มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับจากสาธารณชน โดยส่วนตัวผมก็อดไม่ได้ที่จะนำสไตล์ของผู้จัดการทีมคนใหม่ไปเทียบกับคนเก่า โรแบร์โต้ มันชินี่ ซึ่งผมว่าเขามาดดี ดูเก๋า แต่เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับสโมสรว่าจะเลือกใครให้มาคุมทีม ซึ่งผมมั่นใจว่าเขาเลือกคนที่เหมาะสม"
สำหรับการมองซิตี้แล้วย้อนดูไทยแลนด์นั้น หนุ่มแมทธิว เผยว่า "ผมอยากให้ประเทศไทยเอาอย่างซิตี้ที่ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจและทุนเพื่อที่จะปั้นนักเตะเยาวชนจนเติบใหญ่ การให้ที่สำคัญส่วนนี้ปลูกฝังให้เด็กและผู้คนเห็นความสำคัญของกีฬาฟุตบอลและดึงพลังชุมชนมาเป็นส่วนร่วมด้วย ผมได้ติดตามและศึกษาผลงานที่สโมสรทำไว้ เขาทำได้ดีจริงๆ ครับ หนึ่งในสิ่งสำคัญของทีมฟุตบอล ก็คือ ควรจะเฟ้นหาเยาวชนมาหัดและฝึกฝีมือให้เป็นนักเตะชั้นนำ ซึ่งจุดนี้เมืองไทยยังขาดอยู่ เรายังไม่มีการลงทุนในแบบที่ซิตี้ได้ทำไว้ สำหรับสเตเดียมใดในอังกฤษที่ผมไปเยือนและชอบที่สุด คือ ต่อให้ผมไม่เชียร์ซิตี้ ผมก็จะบอกว่าเอติฮัด สเตเดียม คือสนามแข่งที่ดีที่สุดในอังกฤษ ผมไปมาหลายแห่ง ทั้ง เชลซี ฟูแล่ม ลิเวอร์พูล เชลซี แมนยูฯ แต่ทางซิตี้มีไอเดียบรรเจิดในการทำสเตเดียมให้พรั่งพร้อมทันสมัยและสะดวกสบาย และผมเชื่อว่าเขาทำได้ดีกว่าสเตเดียมใดๆ ในอังกฤษ ถามว่าผมเคยไปชมเกมการแข่งขันที่เอติฮัดหรือยัง ยังครับ แต่ถ้ามีโอกาสผมจะต้องไปชมเกมการแข่งที่เอติฮัด เพราะตอนที่ไปตอนนั้นไม่ได้ไปชมเกมการแข่งขัน แต่ได้ไปชมสถานที่ทั้งด้านในและด้านนอก แล้วก็ได้ไปซิตี้ สโตร์ ไปชมของที่ระลึก ผมก็ซื้อติดไม้ติดมือกลับมาเมืองไทยด้วย เช่น พวงกุญแจ แก้วน้ำ หวังว่าสักวันคงมีโอกาสได้ไปเยือนอีกครับ"