เกาะติดม็อบ!กปปส.เมินร่วมเวทีปฏิรูปลุยพบ7องค์กรเอกชน

'เอกนัฏ' แถลงโต้ นายกรัฐมนตรี ไม่รับฟังข้อเสนอประชาชน ชี้ การเลือกตั้งก่อนปฏิรูปไม่ใช่ทางออก กปปส.เดินหน้าต่อด้วยตนเอง วันนี้ นัดคุยภาคเอกชน 7 องค์กร

บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. บริเวณแยกนางเลิ้ง ล่าสุด นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. ได้กล่าวว่า การแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรีที่ให้มีการเลือกตั้งก่อนการปฏิรูปประเทศนั้น ชี้ให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่รับฟังข้อเสนอของประชาชน เพราะประชาชนต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งแนวทางที่ง่ายที่สุดคือให้นายกรัฐมนตรีหยุดรักษาการในตำแหน่งเพื่อเปิดช่องให้มีการปฏิรูปประเทศต่อไป แต่เมื่อนายกรัฐมนตรียังดื้อดึง ทาง กปปส.จะดำเนินการตามแนวทางของ กปปส.เอง เพื่อชี้แจงแนวทางการปฏิรูปประทศ โดยในวันนี้ได้นัดพบผู้นำ 7 องค์กรเอกชน อาทิ หอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย ในเวลา 15.30 น. 

ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการจัดรายการ กปปส.พบสื่อมวลชน เวลา 10.00 น. ที่สนามม้านางเลิ้ง และในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ จะมีการจัดสมัชชามวลมหาประชาชน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับภาคประชาชน ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยธรามศาสตร์ ในเวลา 09.00 น. และยังย้ำว่า กปปส.ยังรอคำตอบจากผู้นำเหล่าทัพเพื่อชี้แจงแนวทางการปฏิรูปประเทศอยู่ ซึ่งในขณะนี้ทางผู้นำเหล่าทัพ ยังไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด

 

คปท.กระจายตัวรอบทำเนียบตัดน้ำตัดไฟ

บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่บริเวณถนนพิษณุโลก ข้างทำเนียบรัฐบาล ขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปักหลักชุมนุมและกระจายตัวตามประตูรอบทำเนียบรัฐบาลเพื่อกดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ออกจากพื้นที่ ซึ่งหลังจากที่มีการตัดน้ำตัดไฟในทำเนียบรัฐบาล แล้ว แต่ยังไม่มีการตอบรับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ชุมนุมจึงเพิ่มเงื่อนไข โดยการปิดทางเข้าออกและไม่ให้มีการส่งข้าวส่งน้ำให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ภายใน รวมถึงจะไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคนใด ออกนอกพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเด็ดขาด เว้นเสียจากการถอนกำลังออกนอกพื้นที่ไปทั้งหมด

อย่างไรก็ตามผู้ชุมนุมได้ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ป่วยจำนวน 3 นาย ออกไปพักรักษาตัว โดยมีรถพยาบาลมารับออกไป ผ่านทางประตู 5 ตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ โดยไม่มีเหตุรุนแรงใด

 

'เอกนัฏ'ยันกปปส.ไม่คิดโค่นเวทีปฏิรูปรัฐบาล

บรรยากาศการชุมนุมของ กลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่แยกนางเลิ้ง ล่าสุดยังคงเป็นไปอย่างเรียบร้อย ผู้ชุมนุมยังคงพักผ่อนตามอัธยาศัย อย่างเช่นตลอดทั้งวัน ขณะที่บนเวทีปราศรัย ได้ถ่ายทอดสดการหารือร่วมกับภาคเอกชนในการปฏิรูปประเทศ จากโรงแรม เดอะ สุโกศล ที่เริ่มตั้งแต่เวลา 15.30 น. ที่ผ่านมา

ทางด้าน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกกลุ่ม กปปส. ได้เปิดเผยถึงเวทีปฏิรูปจากทาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าทางกลุ่ม กปปส. ไม่มีแนวทางเข้าร่วมเวทีดังกล่าว เนื่องจากมีแนวทางเป็นของตัวเองอยู่แล้ว และยังเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่มีความเข้าใจและไม่มีความพยายามที่จะช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ยืนยันว่า กลุ่ม กปปส. จะเร่งดำเนินการตั้งเวทีปฏิรูปให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้ง ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ปี 2557

 

แกนนำคปท.ถก7องค์กร-มวลชนยังกดดันตร.

บรรยากาศการชุมนุมของ กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ขณะนี้ มวลชนบางส่วนยังคงกระจายตัวเฝ้าระวังตามประตูรอบๆ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อไม่ให้มีการส่งข้าวส่งน้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาการในทำเนียบรัฐบาล ภายหลังที่มีมาตรการตัดน้ำตัดไฟ เพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถอนกำลังทั้งหมดออกจากพื้นที่ ขณะที่บางส่วน ได้กลับมาที่เวทีบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ โดยมีแกนนำกลุ่มย่อย และนักวิชาการ ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีการบริหารงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ทั้งนี้ เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ทางการ์ด คปท. ได้แจ้งให้มวลชนทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการประสานงานมาอีกครั้ง เพื่อขอให้แพทย์และพยาบาลที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาลออกจากพื้นที่ ซึ่งทางการ์ดก็ยินยอม

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแกนนำ คปท. ได้เดินทางไปที่ห้องรัตนโกสินทร์ โรงแรมเดอะ สุโกศล ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา เพื่อพบปะพูดคุยกับผู้แทนภาคเอกชน 7 องค์กร ร่วมกับ คณะแกนนำ กปปส. เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจการปฏิรูปประเทศไทย

 

 

 

-----------------------------------------------------------------------------

เกาะติดม็อบ!ประยุทธ์ปัดนัดสุเทพย้ำเป็นกลางถาวรบอกแค่แจง

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=501054

เกาะติดม็อบ! กปปส. ยันขอพบผบ.ทัพรอตอบรับ

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=501125