ย้อนรอยชีวิต ไอ้หนุ่ย ไร้วี่แววฆาตรกรโหด

ย้อนรอยชีวิต ไอ้หนุ่ย ไร้วี่แววฆาตรกรโหด

ย้อนรอยชีวิต ไอ้หนุ่ย ไร้วี่แววฆาตรกรโหด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากคดีสะเทือนขวัญที่ฆาตรกรโหดลักพาตัว"น้องการ์ตูน" หนูน้อยวัย 6 ขวบ ไปฆ่าข่มขืน ทิ้งศพที่ป่าหญ้า ข้างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส แบริ่ง ซึ่งล่าสุดตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ คือ นายหนุ่ย หรือ ติ๊งต่าง และจากคำสารภาพของฆาตรกรรายนี้ทำเอาสังคมไทยต้องตกตะลึง นี่ไม่ใช่เหยื่อรายแรก เขาเคยก่อเหตุกรณีดังกล่าวมาแล้ว 10 ครั้ง โดยข่มขืนแล้วฆ่าถึง 4 ครั้ง

หลายคนอาจสงสัยถึงที่มาและปูมหลังของชีวิตฆาตรกรโหดรายนี้ทำไมเขาถึงได้มีพฤติกรรมที่เหี้ยมโหดขนาดนี้

จากคำบอกเล่าของผู้ใหญ่บ้าน นายสมศักดิ์ ทองจันทร์ฮาด ได้เผยว่า นายหนุ่ยเคยอยู่ที่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 2 บ้านเปือย ต.เปือยน้อย อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของอดีตภรรยาทีเคยอยู่กินด้วยกันแต่ตอนนี้ได้เลิกรากันไปนานแล้ว
สำหรับประวัติของนายหนุ่ยหรือติ๊งต่าง นั้น เดิม พื้นแพเป็นชาวพม่าจึงไม่มีนามสกุล ไม่มีบัตรประชาชน เป็นเด็กเร่ร่อน อายุประมาณ 9 ขวบ อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ จากนั้น นายลอง และ นางพิน จันหาบาง ได้เข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯ จึงเก็บมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม โดยนำนายหนุ่ยเดินทางกลับมาที่ อ.เปือยน้อย ทุกครั้งที่มีงานเทศกาล จนชาวบ้านรู้จักและคุ้นเคย จากนั้นได้บวชเป็นสามเณร เมื่ออายุได้ 15 ปี และไม่นานก็ศึกออมาเป็นเด็กวัด โดยนิสัยใจคอนายหนุ่มเป็นคนที่ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร ใครให้ช่วยทำอะไรก็ทำหมด ขยันทำมาหากิน จนชาวบ้านต่างให้ความชื่นชม และมีนิสัยอีกอย่างคือชอบคลุกคลีเด็กผู้หญิง ชอบซื้อขนมมาแจกเด็กๆ ดูแล้วเป็นคนรักเด็ก ด้วยเหตุนี้เองชาวบ้านจึงแนะนำให้แต่งงานกับ นางบุญจันทร์ แม่หม้ายลูกสอง เพราะเห็นว่าเป็นคนดี ขยัน อีกทั้งมาช่วยเลี้ยงลูกด้วย โดยไม่คิดค่าสินสอดใดๆ

จนกระทั่งเมื่อปี 2551 นายหนุ่ยและภรรยาได้ไปเที่ยวงานวัดประจำปีของอำเภอเปือยน้อย และได้ไปพบเด็กอายุ 6 ขวบ ซึ่งอยู่หมู่บ้านใกล้เคียง อยู่คนเดียว จึงได้หลอกพาเด็กไปกระทำข่มขืนข้างคลองน้ำโดยบีบคอจนเด็กสลบแล้วข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ หลังจากนั้นนึกว่าเด็กเสียชีวิตแล้วจึงโยนทิ้งลงน้ำเพื่ออำพรางคดี แต่โชคดีเด็กไปติดกิ่งไม้และยังมีชีวิตอยู่ ชาวบ้านผ่านมาพบเห็นจึงช่วยไว้ได้ หลังก่อเหตุได้ไม่นานตำรวจก็ติดตามจับกุมตัวได้และยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งดำเนินคดีข้อหาพากผู้เยาว์และทำอนาจารเด็กไม่เกิน 15 ปี และโดนจับติดคุก

กระทั้งเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2555 ถูกปล่อยตัวมา ออกจากเรือนจำและได้กลับหาภรรยาที่ อ.เปือยน้อย แต่ภรรยาไม่ยอมคืนดีจึงเลิกรากัน นายหนุ่ยได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านประมาณ 1 อาทิตย์ ก็โดนชาวบ้านขับไล่เนื่องจากรับไม่ได้กับพฤติกรรมที่นายหนุ่ยก่อไว้ หลังออกจากหมู่บ้านนายหนุ่ยจึงมารับจ้างเป็นเด็กขนเครื่องวงดนตรีคณะไหมไทย และได้ออกมาก่อคดีสะเทือนขวัญดังกล่าว

ไม่น่าเชื่อลยว่าจากบุคคลที่เคยเป็นที่ยอมรับ บวชเรียน ขยันทำมาหากินเอาการเอางานจะสามารถก่อคดีสะเทือนขวัญได้ถึงเพียงนี้ หรือว่าอาจเป็นเพราะฤทธิ์ของสุราตามที่เขากล่าวอ้าง หรือ อาจเป็นเพราะความชอบส่วนตัว ซึ่งคำตอบนั้นมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook