อดีตเมียผู้ต้องหาฆ่า ′น้องการ์ตูน′ เผยอดีตสามีชอบมอง ด.ญ.ในหมู่บ้าน
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 ธันวาคม ที่ สน.บางนา พ.ต.ท.ภาสกร รัตนปนัดดา รอง ผกก.สส.สน.บางนา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปสอบปากคำ นางบุญจันทร์ ขันติ อายุ 40 ปีที่โรงงานคัดแยกขยะ ย่านพุทธมณฑล สาย 3 เป็นอดีตภรรยาของนายหนุ่ย ผู้ต้องหาข่มขืนและฆ่าน้องการ์ตูน เพื่อรวบรวมไว้เป็นหลักฐานนำไปประกอบสำนวนเพิ่มเติมอีกครั้ง
นางบุญจันทร์ให้การว่า เคยคบหากับนายหนุ่ยกันมาเป็นเวลากว่า 3 ปีจนถูกจับกุมเมื่อปี 2551 ก่อนหน้าที่จะคบหากัน นางบุญจันทร์มีสามีและลูกชายอีก 2 คนจากสามีเก่ามาได้เสียชีวิตไปแล้ว ทางญาติจึงหาคู่ครองให้ใหม่เพื่อมาดูแลลูกอีก 2 คน
พ.ต.ท.ภาสกรกล่าวต่อว่า นางบุญจันทร์เล่าว่า ขณะนั้นนายหนุ่ยเป็นคนที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน และเป็นคนดีมักคอยช่วยเหลือ ขยันขันแข็งเอาการเอางาน ทางผู้ใหญ่จึงเห็นชอบให้ผูกข้อไม้ข้อมือกัน พร้อมเงินสินสอดจำนวน 1,000 บาท ในการคบหากันตลอด 2 ปี นายหนุ่ยมักจะไปช่วยผู้ใหญ่บ้านคนเก่าทำงานขนย้ายเครื่องเสียงจัดงานคอนเสิร์ตตามงานวัด เงินที่ได้จะนำมาเลี้ยงดูครอบครัว กระทั่งเข้าปีที่ 3 นายหนุ่ยเริ่มเปลี่ยนแปลงไป มีอารมณ์ดุร้าย ทะเลาะกับนางบุญจันทร์อยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยลงไม้ลงมือกัน และช่วงกลางวันมักหายตัวไป กลับมาบ้านอีกทีในช่วงเย็นทุกวัน รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์กันก็น้อยครั้งลง โดยจะมีเดือนละ 1 ครั้ง
"มีชาวบ้านภายในหมู่บ้านมาเตือนนางบุญจันทร์ให้คอยสังเกตสามีว่า พักหลังชอบมองเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ บ่อยครั้ง เกรงจะเกิดเหตุร้ายได้ แต่นางบุญจันทร์ก็ไม่คิดอะไร จนนายหนุ่ยมาก่อเหตุเมื่อปี 2551 ซึ่งระหว่างนายหนุ่ยจำคุกอยู่นั้น ก็ไม่เคยไปเยี่ยมเลยสักครั้งเดียว โดยหลังจากนายหนุ่ยถูกปล่อยตัว ได้มาที่บ้าน แต่นางบุญจันทร์ไม่อยู่แล้ว เนื่องจากย้ายมาพักกับลูกชายที่ทำงานคัดแยกขยะ ที่ย่านพุทธมณฑลสาย 3 หลังจากนั้นชาวบ้านขับไล่นายหนุ่ยออกจากหมู่บ้าน เนื่องจากเกรงว่านายหนุ่ยจะกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก จนมาทราบข่าวว่า นายหนุ่ยได้ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง นางบุญจันทร์จึงอยากให้นายหนุ่ยถูกประหารชีวิต เพราะการกระทำของคนร้ายรายนี้มันชั่วร้ายเกินกว่าความเป็นมนุษย์อีกแล้ว" พ.ต.ท.ภาสกรกล่าว