อดีตเมียผู้ต้องหาฆ่า ′น้องการ์ตูน′ เผยอดีตสามีชอบมอง ด.ญ.ในหมู่บ้าน

อดีตเมียผู้ต้องหาฆ่า ′น้องการ์ตูน′ เผยอดีตสามีชอบมอง ด.ญ.ในหมู่บ้าน

อดีตเมียผู้ต้องหาฆ่า ′น้องการ์ตูน′ เผยอดีตสามีชอบมอง ด.ญ.ในหมู่บ้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 ธันวาคม ที่ สน.บางนา พ.ต.ท.ภาสกร รัตนปนัดดา รอง ผกก.สส.สน.บางนา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปสอบปากคำ นางบุญจันทร์ ขันติ อายุ 40 ปีที่โรงงานคัดแยกขยะ ย่านพุทธมณฑล สาย 3 เป็นอดีตภรรยาของนายหนุ่ย ผู้ต้องหาข่มขืนและฆ่าน้องการ์ตูน เพื่อรวบรวมไว้เป็นหลักฐานนำไปประกอบสำนวนเพิ่มเติมอีกครั้ง

นางบุญจันทร์ให้การว่า เคยคบหากับนายหนุ่ยกันมาเป็นเวลากว่า 3 ปีจนถูกจับกุมเมื่อปี 2551 ก่อนหน้าที่จะคบหากัน นางบุญจันทร์มีสามีและลูกชายอีก 2 คนจากสามีเก่ามาได้เสียชีวิตไปแล้ว ทางญาติจึงหาคู่ครองให้ใหม่เพื่อมาดูแลลูกอีก 2 คน

พ.ต.ท.ภาสกรกล่าวต่อว่า นางบุญจันทร์เล่าว่า ขณะนั้นนายหนุ่ยเป็นคนที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน และเป็นคนดีมักคอยช่วยเหลือ ขยันขันแข็งเอาการเอางาน ทางผู้ใหญ่จึงเห็นชอบให้ผูกข้อไม้ข้อมือกัน พร้อมเงินสินสอดจำนวน 1,000 บาท ในการคบหากันตลอด 2 ปี นายหนุ่ยมักจะไปช่วยผู้ใหญ่บ้านคนเก่าทำงานขนย้ายเครื่องเสียงจัดงานคอนเสิร์ตตามงานวัด เงินที่ได้จะนำมาเลี้ยงดูครอบครัว กระทั่งเข้าปีที่ 3 นายหนุ่ยเริ่มเปลี่ยนแปลงไป มีอารมณ์ดุร้าย ทะเลาะกับนางบุญจันทร์อยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยลงไม้ลงมือกัน และช่วงกลางวันมักหายตัวไป กลับมาบ้านอีกทีในช่วงเย็นทุกวัน รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์กันก็น้อยครั้งลง โดยจะมีเดือนละ 1 ครั้ง

"มีชาวบ้านภายในหมู่บ้านมาเตือนนางบุญจันทร์ให้คอยสังเกตสามีว่า พักหลังชอบมองเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ บ่อยครั้ง เกรงจะเกิดเหตุร้ายได้ แต่นางบุญจันทร์ก็ไม่คิดอะไร จนนายหนุ่ยมาก่อเหตุเมื่อปี 2551 ซึ่งระหว่างนายหนุ่ยจำคุกอยู่นั้น ก็ไม่เคยไปเยี่ยมเลยสักครั้งเดียว โดยหลังจากนายหนุ่ยถูกปล่อยตัว ได้มาที่บ้าน แต่นางบุญจันทร์ไม่อยู่แล้ว เนื่องจากย้ายมาพักกับลูกชายที่ทำงานคัดแยกขยะ ที่ย่านพุทธมณฑลสาย 3 หลังจากนั้นชาวบ้านขับไล่นายหนุ่ยออกจากหมู่บ้าน เนื่องจากเกรงว่านายหนุ่ยจะกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก จนมาทราบข่าวว่า นายหนุ่ยได้ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง นางบุญจันทร์จึงอยากให้นายหนุ่ยถูกประหารชีวิต เพราะการกระทำของคนร้ายรายนี้มันชั่วร้ายเกินกว่าความเป็นมนุษย์อีกแล้ว" พ.ต.ท.ภาสกรกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook