แฉเบื้องหลังเด้ง พีรพล! เพื่อนเนวิน ชง หวั่นเป็นไส้ศึกแม้ว
เผยเบื้องลึก เพื่อนเนวิน เป็นคนชงย้าย พีรพล อ้างไม่สนองนโยบาย หวั่นเป็นไส้ศึกฝ่ายตรงข้าม เพราะใกล้ชิดคนสนิททักษิณ- สุเทพ ยอมรับเป็นคนเสนอเอง เจ้าตัวเผยเตรียมใจไว้ล่วงหน้าแล้ว เตรียมอุทธรณ์ ก.พ. ร้องศาลปกครอง
ปูดเหตุเด้งปลัด มท.หวั่นเป็นไส้ศึก
จากกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลงนามสั่งเด้งฟ้าผ่านายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมตั้งนายวิชัย ศรีขวัญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยแทน เมื่อวันที่ 20 มกราคม
แหล่งข่าวใกล้ชิดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง แจ้งว่า ก่อนหน้านี้นายสุเทพได้หารือกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ถึงงานของกระทรวงมหาดไทย ก่อนนายสุเทพจะแจ้งแก่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถึงเรื่องการย้ายนายพีรพล เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน ซึ่งกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่มีรัฐมนตรีและคนใกล้ชิดนายเนวิน คอยสังเกตการบริหารงานในกระทรวงหมาดไทยตั้งแต่ช่วงปลายรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้สะท้อนการทำงานของนายพีรพลว่า นายพีรพลมาจากสายของพ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นเพื่อนสนิทกับนายชานนท์ สุวสิน คนสนิทพ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้การสั่งการหลายครั้งไม่ได้รับการสนองตอบ อีกทั้งยังมีบ่อยครั้งที่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ล่วงรู้ความลับสำคัญๆ ของรัฐบาล ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงต่างๆ ของรัฐบาล
"ดังนั้น เพื่อความราบรื่นในการบริหารงาน จึงควรให้นายพีรพลไปช่วยราชการที่ทำเนียบ ส่วนนายวิชัย เป็นผู้ที่ถูก คมช.วางตัวให้ขึ้นปลัดกระทรวงมหาดไทยต่อจากนายพงศ์โพยม วาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยถูกตั้งให้เป็นอธิบดีกรมการปกครองในรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ แต่รัฐบาลนายสมชายตั้งนายพีรพลมาแทน " แหล่งข่าวกล่าว
เด้งฟ้าผ่าปลัดมท.เข้ากรุ
ทั้งนี้ นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี( ครม.) เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ครม. เห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้ย้ายนายพีรพล ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งนายวิชัย ศรีขวัญ เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย
รายงานข่าวแจ้งว่า เช้าวันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ ลงนามอนุมัติหนังสือของกระทรวงมหาดไทย ที่มท 0100/222 เรื่อง สั่งให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ลงนามโดยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยสั่งให้นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิมและให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของทางราชการตามที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีเสนอ
มท.1-น้องเนวิน งงย้าย พีรพล
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ไม่ได้เป็นคนริเริ่ม แต่นายกฯคงต้องการคนไปช่วยราชการที่สำนักนายกฯ ที่สำคัญปลัดกระทรวงมหาดไทยไปดี ย้ายไปสำนักนายกฯ เงินเดือนก็ไม่ลด เรื่องนี้เป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาสูงสุด ตนไม่มีสิทธิคัดค้าน การย้ายครั้งนี้อาจทำให้ข้าราชการเสียขวัญแต่คงไม่นานก็เข้าสู่ภาวะปกติ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ไม่ทราบสาเหตุการย้ายนายพีรพล ทราบเพียงว่าเป็นการใช้อำนาจของนายกฯ ตามพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ตอนแรกมีการสั่งการจากนายกฯมายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจึงทำหนังสือเสนอถึงนายกฯ แต่สาเหตุที่แท้จริงไม่ทราบ รู้สึกงงๆ อยู่ เนื่องจากที่ผ่านมานายพีรพล ก็ทำงานสนองนโยบายได้ดี
มาร์ค อ้างเรื่องงานปัดการเมือง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงถึงกรณีมีคำสั่งย้ายนายพีรพล ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีว่า ตนสอบถามหลายฝ่ายแล้วคิดว่าการย้ายครั้งนี้เพื่อประสิทธิภาพการบริหารงาน และทุกฝ่ายก็เห็นพ้องต้องกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปลัดกระทรวงมหาดไทยเพิ่งทำงานได้เพียง 3 เดือน ทำไมไม่ให้เวลาในการพิสูจน์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายสุเทพ เป็นผู้ขอให้ย้ายมาอยู่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวถามว่า ย้ายเพราะการเมืองใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีเรื่องการเมือง การย้ายครั้งนี้เป็นเรื่องของการบริหาร ซึ่งการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพต้องมีเรื่องของการบริหารบุคคลากร
ผู้สื่อข่าวถามว่า การย้ายครั้งนี้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาม็อบในจังหวัดต่างๆ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนสอบถามหลายคน ทั้งกระทรวงมหาดไทยและรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งทุกคนก็เห็นตรงกันว่าควรจะปรับตรงนี้ เพื่อให้มีประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น ตนไม่ได้ตำหนิปลัดกระทรวงมหาดไทยเลย แต่การทำงานนั้นถือเป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยน
สุเทพ รับเสนอเองย้าย พีรพล
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ชี้แจงว่า "ผมเป็นคนเสนอให้ย้ายนายพีรพลมาเป็นที่ปรึกษานายกฯที่สำนักนายกฯเอง ที่เสนออย่างนี้ เพราะผมเป็นรองนายกฯกำกับดูแลราชการกระทรวงมหาดไทย และเห็นว่ากระทรวงมหาดไทย มีภารกิจในการดูแลแก้ไขปัญหาของประชาชนกว้างขวาง หลายส่วนเกี่ยวพันกับเรื่องความมั่นคง ที่ผมรับผิดชอบ ฉะนั้นจึงต้องการให้ข้าราชการที่ทำงานแล้ว เราจะสบายใจได้ว่า งานที่สั่งไปตามนโยบายทั้งหลาย เขาสามารถนำไปปฏิบัติให้ได้ผล เรามีเวลาจำกัดในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ฉะนั้นผมก็ได้ปรึกษาหารือกัน แล้วตัดสินใจย้ายนายพีรพลมาอยู่ทำเนียบ เพื่อเปิดโอกาสให้กระทรวงแต่งตั้งคนใหม่"
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลเพิ่งเริ่มทำงานเห็นชัดหรือว่านายพีรพลทำงานไม่คืบหน้า นายสุเทพกล่าวว่าบางเรื่องก็เหมาะสมที่จะพูด บางเรื่องก็ไม่เหมาะ แต่ทั้งหมดไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัว ตนกับนายพีรพลไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ไม่โกรธ ไม่รัก แต่ตนเห็นว่าเอามาอยู่ทำเนียบ จะเป็นประโยชน์แก่ราชการมากกว่า และที่กระทรวงมหาดไทยจะทำงานได้ดีขึ้น เรื่องนี้ตนถามรัฐมนตรีมหาดไทยแล้ว ท่านก็เห็นด้วย
ยันเหตุเด้งไม่เกี่ยวเป็น เด็กแม้ว
เมื่อถามว่า เป็นเพราะนายพีรพลมาในสายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ทราบว่ามาสายไหน ยังไม่ได้วิเคราะห์ดีเอ็นเอดู ไม่ได้ติดใจเรื่องดังกล่าว แต่ติดใจว่างานที่เหลือต่อไปข้างหน้า ตนต้องการทีมงานที่ทำงานได้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และตั้งใจ ไม่ได้ดูว่าใกล้ชิดสนิทสนมกับใครหรือไม่
นายสุเทพยังให้เหตุผลถึงการให้นายวิชัย เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยแทนว่า เพราะเป็นอดีตอธิบดีกรมการปกครอง แต่รัฐบาลก่อนย้ายนายวิชัยไปเป็นรองปลัด ที่ถือว่ามีความอาวุโส มีความรู้ความสามารถ คิดว่าจะทำหน้าที่ได้ดีในช่วงนี้ ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่านายวิชัยเติบโตมาในสายของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) นั้น คงไม่ใช่ นายวิชัยเป็นลูกหม้อของกระทรวง และไม่ใช่ว่านายวิชัยเป็นคนบ้านเดียวกับตน
เมื่อถามว่า เป็นการส่งสัญญานถึงการโยกย้ายครั้งใหญ่ในอนาคตหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มีการโยกย้ายครั้งใหญ่ แต่การโยกย้ายข้าราชการเป็นเรื่องปกติ เราต้องการสัมฤทธิ์ผลในเรื่องการทำงานจึงต้องวางคนที่เรามั่นใจได้เท่านั้นเอง
พีรพล เตรียมใจล่วงหน้าแล้ว
วันเดียวกัน ที่กระทรวงมหาดไทย นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังถูกย้ายด่วนภายใน 24 ชั่วโมง ว่า เป็นอำนาจของฝ่ายการเมือง แต่จะเป็นธรรมหรือไม่ ไม่รู้ ส่วนจะเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ ถ้ามองกันแบบข้าราชการประจำ ที่ผ่านมาทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว ที่เคยบอกแล้วว่าข้าราชการประจำจะอารยะขัดขืนนั้นก็ไม่เคยขัดขืนใคร ทำงานให้เต็มที่ ฉะนั้นยังไม่ทราบสาเหตุลึกๆ ว่าจริงๆ แล้วคืออะไร ไม่เคยมีสัญญาณบอกมาก่อน
นายพีรพลกล่าวว่า ความสัมพันธ์ที่ผ่านมากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็เป็นไปด้วยดี อย่างไรก็ตาม เมื่อเปลี่ยนขั้วการเมืองก็เตรียมใจมาพอสมควร ถ้าการเมืองลงลึกถึงข้าราชการมากๆ บ่อยๆ ข้าราชการทุกคนก็ต้องเตรียมใจ แต่ย้ายครั้งนี้บอกตรงๆ ว่าไม่รู้เหตุผล
เตรียมอุทธรณ์ก.พ.-ฟ้องศาล
"ตอนนี้ก็มีหน่วยพิทักษ์คุณธรรมอยู่เยอะแยะ ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ ผมไม่ได้คาดหวังอะไร เพียงแต่หากมีช่องอะไรที่เปิดอยู่ก็จะขอใช้สิทธิ ตามปกติก็ต้องอุทธรณ์คำสั่งต่อก.พ.(สำนักงานข้าราชการพลเรือน) ถ้าอุทธรณ์แล้วไม่น่าพอใจก็มีสิทธิฟ้องศาล ก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณีอย่างนี้เกิดขึ้นคือนายจาดุร อภิชาติบุตร รองปลัดสำนักนายกฯที่ถูกย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งก็ใช้ช่องทางนี้เหมือนกัน ผมก็จะใช้สิทธินี้ แต่คงไม่ลาออก ชีวิตข้าราชการก็อย่างนี้ ถูกใจก็อยู่ ไม่ถูกใจก็ไป ผมไม่ช็อคกับเรื่องนี้ เพราะชีวิตผมเจอเรื่องอย่างนี้มาเป็นครั้งที่ 3 แล้ว อีกอย่างก็เตรียมตัวตลอด เพราะความขัดแย้งในบ้านเมืองแหลมคมมาก" นายพีรพล กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิพากษ์ว่าการย้ายครั้งนี้เพราะสนิทสนมกับพ.ต.ท.ทักษิณ นายพีรพลกล่าวว่า เคยพูดเสมอว่าข้าราชการระดับ 11 ก็ต้องมีรัฐบาลไหนสักรัฐบาลตั้ง แต่ประเด็นคือตั้งคนคุณภาพอย่างไรเข้ามา ต้องใช้สมองดูกันว่าคนที่ถูกตั้งมีคุณภาพแบบไหน ต้องตั้งคนทำงาน ไม่ใช่คนที่หิ้วกระเป๋าติดสอยห้อยตาม ต้องแยกกันให้ออกว่าคนไหนมือทำงาน คนไหนมือการเมือง ตนไม่เคยเป็นเครื่องมือใคร ตลอดชีวิตที่เข้าไปยุ่งกับการเมืองจะพยายามถอย จะทำเท่าที่กรอบข้าราชการประจำสมควรทำ อะไรที่ไม่สมควร ก็ถอยออกมา
ลาพักผ่อน20วันยังไม่ไปสำนักนายกฯ
เมื่อถามว่าคิดว่าคนมาใหม่มาด้วยการเมืองหรือไม่ นายพีรพลกล่าวว่า การตั้งซี 11 ก็ต้องการเมืองอยู่แล้ว เมื่อถามว่าเสียใจหรือไม่ที่ถูกย้ายก่อนจะเกษียณไม่กี่เดือน นายพีรพลตอบว่า ได้เป็นปลัดกระทรวงก็ดีใจแล้ว เพราะโดยบุคลิกภาพของ ตน มีแต่คนบอกว่าเป็นคนแข็ง อะไรไม่ถูกไม่ต้องตนไม่ค่อยยอม ขึ้นมาเป็นปลัด 3-4 เดือน ก็เก่งแล้ว อย่างน้อยก็เป็นแบบอย่างให้ข้าราชการที่แข็งๆ เห็นว่าอย่างน้อยมีคนอย่างตนมาถึงเหมือนกัน
เมื่อถามว่า มีการมองกันว่าเป็นเพราะคุมม็อบเสื้อแดงไม่ได้ รวมถึงกรณีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ถูกม็อบเสื้อแดงปาไข่ นายพีรพลกล่าวว่า แล้วสมัยเสื้อเหลืองคุมได้ไหม มันต้องมอง 2 มุม ปัจจุบันเป็นมวลชนที่มีการเมืองเกี่ยวข้อง พูดจริงๆ ว่าสงสารผู้ว่าฯ เมื่อถามว่าจะมีการล่ารายชื่อข้าราชการเพื่อขอยับยั้งคำสั่งหรือไม่ นายพีรพลกล่าวว่าไม่มีใครทำแบบนั้น หลังจากนี้จะยังไม่ไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักนายกฯ แต่จะใช้สิทธิการลาพักผ่อน 20 วัน ตามกฎหมาย แล้วจะไปพิจารณาก่อนจะทำอย่างไรดี
วิชัย รับคนบ้านเดียวกับ สุเทพ
ด้านนายวิชัย ศรีขวัญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าขึ้นมาเพราะการเมืองสนับสนุน ว่า ฝ่ายการเมืองกับข้าราชการประจำก็เหมือนเหรียญ 2 ด้าน ด้านหนึ่งเป็นฝ่ายการเมืองที่กำหนดนโยบาย อีกด้านหนึ่งคือข้าราชการประจำที่เป็นผู้ปฏิบัติ ตนมักจะถูกมองว่าสนิทสนมกับทุกฝ่าย แต่เราทำไปตามนโยบาย ที่ผ่านมาเรียกว่าเป็นการแลกเปลี่ยนกันมากกว่า ที่ว่าเป็นเด็ก คมช. คงเป็นเพราะช่วงหนึ่งที่เป็นผู้ว่าฯลพบุรี เป็นเวลาที่พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคมช. อยู่ลพบุรี แต่เรื่องเป็นเด็กคมช. คงไม่ใช่
เมื่อถามว่าสนิทกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือไม่ นายวิชัยกล่าวว่า เป็นเพียงคนคนสุราษฎร์ธานีเหมือนกัน รู้จักกันแต่ไม่เคยร่วมงาน และตั้งแต่นายสุเทพเป็นรองนายกฯก็ไม่เคยพบ ไม่เคยโทรศัพท์คุยกัน เมื่อถามว่ามีสัญญาณแจ้งมาก่อนล่วงหน้าหรือไม่ นายวิชัยกล่าวว่า ก็ทราบบ้างจากข่าว แต่ไม่ได้ยินจากนายสุเทพ เพราะไม่ได้พบ และไม่ได้ติดต่อกันเลย
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีย้ายนายพีรพลเชื่อว่าการโยกย้ายครั้งนี้มีการเมืองมาเกี่ยวข้องล้านเปอร์เซ็นต์