มิตรภาพรถแน่นทัวร์ภูเก็ต-สุรินทร์ชนตู้ดับ3เจ็บ15

การจราจรถนนมิตรภาพ ตลอดทั้งคืนยังหนาแน่น เคลื่อนตัวช้า ขณะเกิดอุบัติเหตุรถทัวร์ชนกับรถตู้ เสียชีวิต 3 บาดเจ็บ 15

บรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนา และเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2557 ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา บนถนนมิตรภาพฝั่งขาออกนั้น มีปริมาณรถมาก เคลื่อนตัวได้ช้า ทำให้มีปริมาณรถที่สะสมตามจุดต่าง ๆ เป็นระยะทางยาวกว่า 30 กิโลมเตร โดยเฉพาะช่วงโฮมโปร จ.สระบุรี

ด้าน พ.ต.ท.สวิสส์ เจริญผล สว.สทล.หินกอง จ.สระบุรี เปิดเผยว่า ถนนมิตรภาพตั้งแต่ช่วงกิโลเมตรที่ 35 เรื่อย
มาจนถึงกิโลเมตรที่ 5 สภาพการจราจรหนาแน่น มีปริมาณรถมากเต็มพื้นที่ และชะลอตัวเป็นบางจุด เนื่องจากเป็นทางขึ้นเขา

ส่วนเส้นทางถนนพหลโยธิน ก่อนที่จะเลี้ยวขวาเข้าถนนมิตรภาพ เดินทางไปสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นั้น สภาพการจราจรคล่องตัว ไม่มีปัญหาใดๆ

ทั้งนี้ พ.ต.ท.สวิสส์ ระบุว่า หลังจากนี้ สภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพ น่าจะเริ่มคลี่คลาย เพราะพบว่าปริมาณรถบนถนนพหลโยธิน ที่จะเติมเข้ามาถนนมิตรภาพ ได้บรรเทาเบาบางลงแล้ว

ขณะที่เมื่อเวลา 02.20 น. ที่ผ่านมา บริเวณถนนมิตรภาพสายเก่า มุ่งหน้าถนนเลี่ยงเมืองปากช่อง เลยวิทยาลัยการอาชีพปากช่อง 2 กิโลเมตร เกิดอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารประจำทางสายภูเก็ต - สุรินทร์ ชนกับรถตู้ ทำให้ผู้โดยสารมากับรถตู้เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บรวม 15 ราย

 

ปชช. ออกต่างจังหวัดฉลองปีใหม่ต่อเนื่อง - จราจรเอเชีย ยังหนึบ

บรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนา และเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2557 ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา บนถนนพหลโยธิน สภาพการจราจรเริ่มหนาแน่นในช่วง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเปิดช่องทางพิเศษ ตั้งแต่กิโลเมตรที่ 74 - 83

ส่วนถนนสายเอเชีย (สาย 32) นั้น สภาพการจราจรหนาแน่น เคลื่อนตัวช้าเป็นจุด ๆ โดยช่วงแรกการจราจรติดขัดตั้งแต่กิโลเมตรที่ 50 -  60 ซึ่งเป็นพื้นที่ อ.ไชโย จ.อ่างทอง และช่วงที่สองการจราจรชะลอตัวอีกครั้ง บริเวณกิโลเมตรที่ 150 ก่อนถึงแยกมโนรมย์ จ.ชัยนาท
 
ขณะที่บริเวณถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก (บางนา-บางปะอิน) ก็มีปริมาณรถมากเคลื่อนตัวช้า แต่ไม่ถึงกับหยุดนิ่ง

มิตรภาพ หนึบ เลี่ยง ทล.304-348

สภาพการจราจรเช้านี้ บริเวณ ถนนมิตรภาพ จากนครราชสีมา มุ่งหน้าขอนแก่น มีปัญหาการจราจรติดขัด ช่วงเข้าต่างระดับจอหอ เจ้าหน้าที่เปิดช่องพิเศษ บริเวณ กม.35-51 เพื่อรับรถจากจุงหวัดสระบุรี ด้าน ถนนสาย 304 ขาออก ช่วง กม. 63 จ.ฉะเชิงเทรา ปริมาณรถน้อย รถน้อยคล่องตัวดีทั้งสองฝั่ง ทางลงด่วนกำแพงเพชร 2 มุ่งหน้าสถานีขนส่งหมอชิต ปริมาณรถหนาแน่น ติดขัดทั้ง 2 ฝั่ง ถนนบรมราชชนนี ช่วงสายใต้ใหม่ ปริมาณรถน้อยการจราจรคล่องตัวดีทั้งสองฝั่ง ถนนศรีนครินทร์ ขาเข้า ช่วงแยกพัฒนาการ มุ่งหน้า แยกลำสาลี ปริมาณรถน้อย การจราจรคล่องตัวดีทั้งสองฝั่ง ถนนกำแพงเพชร 2 ทางเข้าสถานีขนส่งหมอชิต ปริมาณรถมากเคลื่อนตัวได้

เบื้องต้น ขอให้ประชาชนเลี่ยง บริเวณทางหลวงหมายเลข 304 ช่วง อ.นาดี มุ่งหน้า อ.วังน้ำเขียว และ ทางหลวงหมายเลข 348 ตาพระยา - โนนดินแดง การจราจรติดขัดมาก ผู้ใช้ทางเริ่มเปิดช่องทางพิเศษเอง โปรดระมัดระวัง

 

ศรีสะเกษ จยย. ประสานงาปิกอัพคาสี่แยก

เมื่อเวลา 01.00 น. (29  ธ.ค.56) ร.ต.อ.ยุทธนา ดวงกล้า ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งรถจักรยานยนต์ชนรถปิกอัพ ที่บริเวณสี่แยกแคทรียา ต.เมืองเหนือ อ.เมือง รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยศรีสะเกษสงเคราะห์ พบชายวัยรุ่นนอนอยู่กลางถนน มีกองเลือดเต็มถนน ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ100 สีน้ำเงิน ทะเบียน ขขล 463 ศรีสะเกษ ด้านหน้ารถพังยับเยิน และห่างไปประมาณ 3 ม. พบรถปิกอัพโตโยต้า วีโก้ สีน้ำเงินเข้ม ทะเบียน บบ 3985 ร้อยเอ็ด จอดอยู่ สภาพรถประตูด้านข้างมีร่องรอยถูกชนยุบ กระจกบังลมหน้าแตกกระจายเกลื่อนถนน ร.ต.อ.ยุทธนา จึงให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำผู้บาดเจ็บส่งไปยัง ร.พ.ศรีสะเกษ

สอบสวนเบื้องต้น นายจีรพล ภูล้นแก้ว อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 13 บ้านคำดา ต.โนนศิลา อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ให้การว่า ขณะที่กำลังขับรถปิกอัพคันมุ่งหน้าไปยังศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลปีใหม่ และงานกาชาด ประจำปี  2557 เพื่อนำสินค้าไปขาย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ชะลอความเร็วเนื่องจากเป็นสี่แยก และกำลังจะพ้นไปยังถนนฝั่งตรงข้าม ปรากฏว่า มีรถจักรยานยนต์คู่กรณี ซึ่งขับมาด้วยความเร็วสูง มี นายมิตรชัย เรื่อเรือง อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 หมู่ 2 บ้านกระหวัน ต.เสื่องข้าว อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ ผู้ขับขี่ พุ่งชนรถตนด้านข้าง ประตูด้านซ้ายพังยับ และ นายมิตรพล ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเมาสุรา เนื่องจากมีกลิ่นเหล้าคละคลุ้ง ได้รับบาดเจ็บ มีเศษแก้วชิ้นใหญ่ ซึ่งเป็นเศษกระจกรถปักอยู่ที่บริเวณหัวคิ้ว ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยตำรวจจะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

อดีต ส.อบต. ฉลองส่งท้ายปีเก่า เมาควบ จยย.ตกคลองดับ

เกิดเหตุมีจักรยานยนต์ตกคลองเสียชีวิต บนเลียบถนนคันคลอง ม.12 ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ที่เกิดเหตุพบศพ นายทัน สวัสดี อายุ 60 ปีอดีตสมาชิก อบต.บางขุด สภาพนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟเอส สีแดง-ดำ ทะเบียน กตย 437 อยู่ริมตลิ่งคาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 3-6 ชั่วโมง

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายทัน เดินทางมางานเลี้ยงที่วัดหอระฆัง ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยสันนิษฐานว่า นายทัน เมาแล้วขับรถกลับบ้าน จุดเกิดเหตุเป็นทางสามแพร่ง นายทัน มองไม่เห็นทางแยก จนมาตกคลองร่างกระแทกกับรถและตลิ่งจนเสียชีวิตดังกล่าว

พ.ต.อ.กิตติเมศร์ บุรพงศ์นนทศิริ ผกก.สภ.สรรคบุรี จึงให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นำร่าง นายทัน ขึ้นจาก
คลอง ตรวจพิสูจน์สาเหตุการตายโดยละเอียด ก่อนมอบศพให้ญาติทำพิธีทางศาสนาต่อไป

 

ทล. เผย ภาพรวมจราจรดี ห่วง ขากลับ ขอ ปชช. วางแผนก่อนเดินทาง

พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร ผบก.ทล. เปิดเผย การจราจรบนเส้นทางหลวง ขณะนี้ ว่า โดยรวมถือว่าปริมาณ
รถน้อยกว่าทุกปี ซึ่งถือว่าสภาพการจราจรค่อนข้างคล่องตัว จะมีปัญหาเล็กน้อยเป็นบางจุด อาทิ บริเวณต่าง
ระดับพลหลโยธิน ปริมาณรถมากเต็มพื้นที่ เนื่องจากมีรถจากมอเตอร์เวย์มาเติมตลอดทำให้ในช่วงนี้รถสามารถ
เคลื่อนตัวได้ช้า 

ด้านการจราจรสายอีสาน ที่มีปริมาณรถหนาแน่นทุกปีนั้น ในปีนี้ เจ้าหน้าที่ได้เปิดช่องทางพิเศษ เพื่อเร่งระบาย
ตั้งแต่ กิโลเมตรที่ 17-51 โดยรถจะชะลอตัวบริเวณปากช่อง และช่วงเนินเขา เมื่อผ่านจุดนี้รถสามารถเคลื่อน
ได้คล่องตัวขึ้น ส่วนเส้นทางหลวงสายเหนือ ให้ใช้ถนนเลี่ยงเมืองกำแพงเพชร จะมีปัญช่วง อ.ไชโย จ.อ่างทอง ประชาชนเข้าจอดรถแวะปั๊มจำนวนมาก ทำให้ท้านแถวล้นออกมาส่งผลต่อการจราจรข้างเคียง และสายใต้ ถนนเพชรเกษม การจราจรคล่องตัวปริมาณรถเริ่มมากแต่ยังไม่มีปัญหา

ทั้งนี้ บริเวณทางหลวงหมายเลข 340 ถนนโล่ง การจราจรคล่องตัวมาก ประชาชนสามารถใช้เส้นทางดังกล่าว
เพื่อลดปัญหาการจราจรติดได้

อย่างไรก็ตาม ทาง พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ ยังได้กล่าวห่วงใยประชาชนในช่วงการเดินทางกลับ คาดว่าปริมาณจะ
มาก การจราจรติดขัด ประชาชนควรวางแผนก่อนการเดินทาง

 

บก.จร. แนะเส้นทางในการเดินทาง

กองบังคับการตำรวจจราจร รายงาน สภาพเส้นทางในการเดินทางไปยังภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยทางพิเศษ สามารถใช้ได้ดังนี้ โดยใช้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร หรือทางพิเศษศรีรัช (ระบบทางด่วนขั้นที่ 2) ไปแจ้งวัฒนะ เชื่อมต่อทางพิเศษสายอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน - ปากเกร็ด) เพื่อเดินทางไปยัง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ รวมถึงจังหวัดต่าง ๆ ทางภาคเหนือ และสามารถมุ่งหน้าเข้าสู่ ถนนพหลโยธินไปยัง จังหวัดสระบุรี ลพบุรี และต่อไปยังจังหวัดต่าง ๆ ในตะวันออกเฉียงเหนือได้

ส่วนเส้นทางในการเดินทางไปยังภาคตะวันออก ด้วยทางพิเศษ ดังนี้ ใช้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ระบบทางด่วนขั้นที่ 1) มุ่งสู่ทางพิเศษสายบางนา-อาจณรงค์ (ระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายใต้ตอน S1) ได้ที่ทางแยกต่างระดับบริเวณก่อนถึงด่านฯ อาจณรงค์ 2 หรือถ้ามาจากทางพิเศษฉลองรัช (ทางด่วนสายรามอินทรา - อาจณรงค์) สามารถเข้าสู่ทางพิเศษ สายบางนา - อาจณรงค์ที่จุดเชื่อมต่อบริเวณด่านฯ อาจณรงค์ 1 ซึ่งทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเดินทางสู่ภาคตะวันออกโดยใช้ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางด่วนสายบางนา - ชลบุรี) ได้อย่างสะดวกหรือใช้เส้นทางลง ถนนศรีนครินทร์ มุ่งหน้าทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 หรือ 9 ซึ่งสามารถเดินทางไปได้ทั้งภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วยใยพี่น้องประชาชนขับขี่ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย ไม่ดื่มสุรา หากผู้ใดฝ่าฝืนดื่มแอลกอฮอล์บนทางในขณะขับขี่ หรือในขณะโดยสารอยู่ในรถ หรือบนรถ มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ