ศปถ.สั่งเข้มเมาแล้วขับ- ขับรถเร็ว-ไม่สวมหมวกนิรภัย

ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน หรือ ศปถ. สั่งคุมเข้มดื่มแล้วขับ-ขับรถเร็ว-ไม่สวมหมวกนิรภัย ช่วงปีใหม่

นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) ประธานศูนย์ข้อมูลการสื่อสารเพื่อการประชาสัมพันธ์ภายใต้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่าจากรายงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 พบสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ การดื่มแล้วขับ ขับเร็วเกินกำหนดและส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย ขับสู่ถนนใหญ่ ตัดหน้ากระชั้นชิดทำให้ตายคาที่ ดังนั้น การเพิ่มการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นและเอาจริงเอาจังสามารถลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุทางถนนลงได้ โดยเฉพาะเรื่องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ เป็นเรื่องที่ตำรวจต้องเข้มงวดและตรวจจับเป็นพิเศษเพื่อความปลอดภัยประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน ซึ่งหากผู้ที่ดื่มแล้วขับจะมีบทลงโทษตามกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ที่ระบุว่าหากตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่ากฎหมายกำหนด คือ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลอาจสั่งให้ถูกคุมประพฤติ ทำงานบริการสังคม ถูกบันทึกคะแนนและพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ในทุกกรณี นอกจากนี้บทลงโทษของการดื่มแล้วขับยังได้กำหนดไว้หลายระดับรวมถึงเรื่องการควบคุมจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย 

อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ควรเตรียมพร้อมทั้งคน รถ เพราะสาเหตุของอุบัติเหตุประการสำคัญ คือเกิดจากคนและความบกพร่องของรถ ซึ่งคนขับขี่ต้องพักผ่อนให้เพียงพอก่อนขับรถ อย่าดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก่อนหรือระหว่างการขับขี่โดยเด็ดขาด อย่าดื่มหรือเสพของมึนเมาทุกชนิดเพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการขับรถด้วยความเร็วสูง ขาดความระมัดระวัง ขาดสมาธิ หรือง่วงได้ง่าย ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิต