กกต.แถลงรอสรุปพรุ่งนี้ปมขยายเวลาสมัครส.ส.

คณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลง เตรียมศึกษากฎหมายเยียวยาผู้ลงสมัคร ส.ส. หวั่นขยายเวลากระทบกำหนดการเดิม คาด พรุ่งนี้สรุปผล ปมขยายเวลาสมัคร ส.ส.

นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยถึง ผลการประชุมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่า ที่ประชุมในวันนี้ ได้มีการรายงานสรุปผลการรับสมัคร ส.ส. โดยภาพรวมทั้งหมดทั่วประเทศ และสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว พร้อมทั้งมีการพิจารณาในเรื่องการดำเนินการจัดการเลือกตั้งหลังจากนี้ รวมทั้งข้อเสนอต่างๆ ของพรรคเพื่อไทย ที่เรียกร้องให้มีการขยายระยะเวลาในการรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเพิ่มเติมออกไป และให้มีการรักษาสิทธิเยียวยาของผู้ประสงค์ลงสมัคร แต่ไม่สามารถเข้ารับสมัครได้ เนื่องจากปัญหาการชุมนุมทางการเมืองนั้น

โดย นายภุชงค์ กล่าวว่า ที่ประชุมในวันนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุป ทั้งในเรื่องการเยียยวผู้ประสงค์ลงสมัคร และการขยายระยะเวลาวันรับสมัครออกไป โดยทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการศึกษาข้อกฎหมายก่อนนำมาหารืออีกครั้งวันพรุ่งนี้ ซึ่งทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง จะมีการประชุมในเวลา 10.00 น. โดยคาดว่า ผลการดำเนินการเยียวยา และการขยายระยะเวลานั้น ในวันพรุ่งนี้จะได้รับความชัดเจน และจะมีมติแถลงให้ทราบต่อไป อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเกรงว่า การขยายระยะเวลานั้น จะส่งผลกระทบต่อกรอบระยะเวลาในการดำเนินการโดยภาพรวม

ส่วนการหารือร่วม ระหว่าง กกต. และ พรรคประชาธิปัตย์ พร้อม พรรคเพื่อไทย เพื่อหาทางออกของสถานการณ์ทางการเมือง ที่ได้มีการนัดหมายในวันนี้นั้น นายภุชงค์ กล่าวว่า ยังคงต้องรอความชัดเจนจาก นายสมชัย ศรีสุทธิยากร แถลงให้ทราบอย่างชัดเจนอีกครั้ง

 

'อภิสิทธิ์' เผยพบ กกต.ช่วงบ่ายแค่รับฟัง

รศ.ดร.จุรี วิจิตรวาทการ เลขาธิการองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย พร้อมคณะ เดินทางเข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงถึงแนวทางการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น เพื่อทำเป็นพิมพ์เขียวประเทศไทยเสนอต่อสังคมต่อไป ภายหลังการเข้าหารือ นายอภิสิทธิ์ เผยว่า การพูดคุยในวันนี้ เป็นการร่วมกันตรวจสอบสภาพความเป็นจริงของสังคมทั้งระบอบ รวมถึงข้อเสนอขององค์กรต่างๆ เพื่อนำไปพูดคุยกับหน่วยงานต่างๆ และอธิบายประชาชนต่อไป

ส่วนการเดินทางไปพูดคุยกับ กกต. ในวันนี้ จะไปรับฟังสรุปจำนวนผู้สมัคร ส.ส. ทั้งแบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขต รวมถึงจะไปรับฟังแนวทางการดำเนินการของ กกต. เท่านั้น เพราะพรรค ปชป. ไม่มีส่วนได้เสียกับการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ สำหรับการแก้ไขปัญหาสถานการณ์บ้านเมือง มองว่า รัฐบาลต้องยอมรับความจริง ว่าการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ และต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหา โดยการพูดคุยกับ กปปส. เนื่องจาก กปปส. เป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนข้อเสนอต่างๆ ของประชาชนเป็นกลุ่มแรก

 

'จุรินทร์'เผย ส.ส.ไม่ถึง 95% เปิดสภาไม่ได้

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยก่อนการเข้าร่วมการประชุมหารือกับตัวแทนองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศ ที่พรรคประชาธิปัตย์ วันนี้ ว่า หลังจากที่ กกต. ปิดรับการสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ทำให้เห็นชัดเจนแล้วว่า มีเขตเลือกตั้งถึงกว่า 28 เขต ที่ไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้ง จึงจะส่งผลให้ไดัจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่ถึงร้อยละ 95 ของจำนวนสมาชิกตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ทำให้ไม่สามารถเรียกเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรในครั้งแรกได้ หากรัฐบาลพยายามเดินหน้าจัดการเลือกตั้ง ก็จะนำสังคมไทยไปสู่ความว่างเปล่า

อย่างไรก็ตาม กกต. เคยกล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า การเลื่อนการเลือกตั้งสามารถทำได้ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นอำนาจของ กกต. ที่สามารถทำได้เอง ดังนั้น จึงต้องรอความชัดเจนจาก กกต. ซึ่งกำลังมีการประชุมในวันนี้

 

พร้อมพงศ์ยื่นคุ้มครองสิทธิจ่อเอาผิดกกต.ม.157

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยผู้ประสงค์ลงสมัครเข้ารับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขตของพรรคเพื่อไทย จากจำนวน 28 เขต ที่ไม่สามารถเข้าสมัครรับการเลือกตั้งได้ เนื่องจากมีการชุมนุมปิดล้อมระหว่างการรับสมัครนั้น ได้เข้ายื่นหนังสือพร้อมหลักฐานในการขอคุ้มครองสิทธิการรับสมัคร หลังจากได้มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ในสถานีตำรวจท้องที่แล้ว

โดย นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้ เพื่อขอให้ทาง กกต. ให้สิทธิ์แก่ผู้สมัครที่ไม่สามารถเข้าสมัครได้ พร้อมขอให้ทาง กกต. ขยายระยะวันรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต เพิ่มเติมอีก โดยให้สามารถเข้ามาสมัครต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งส่วนกลางได้โดยตรง พร้อมทั้งขอให้ดำเนินการเอาผิดกับแกนนำ กลุ่มผู้ชุมนุมขัดขวางการรับสมัคร ส.ส. ในเขตเลือกตั้งทั้ง 8 จังหวัด ด้วย ทั้งนี้ หากทาง กกต. ไม่ดำเนินการนั้น จะมีการร้องให้ดำเนินการเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ในการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อไป

อย่างไรก็ตาม นายพร้อมพงศ์ ตั้งข้อสังเกตถึงการหารือกับ พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคเพื่อไทย ของ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ด้วยว่า เหตุใดไม่มีการขอพูดคุยทุกพรรค ซึ่งมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่สุจริตด้วย