เปิดใจ "น้องธันย์ ณิชชารีย์" เหยื่อรถไฟฟ้าสิงคโปร์ทับขา

เปิดใจ "น้องธันย์ ณิชชารีย์" เหยื่อรถไฟฟ้าสิงคโปร์ทับขา

เปิดใจ "น้องธันย์ ณิชชารีย์" เหยื่อรถไฟฟ้าสิงคโปร์ทับขา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่น้องธันย์ ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ เหยื่อรถไฟฟ้าสิงคโปร์ทับขา จนต้องตัดทิ้งทั้ง 2 ข้าง เมื่อปี 2554 เปิดใจครั้งแรกกับทีมข่าวเฉพาะกิจสำนักข่าวไทย อสมท. ภายหลังจากศาลสูงสิงคโปร์ยกฟ้อง กรณีที่น้องธันย์เรียกร้องค่าเสียหายกับรถไฟฟ้าสิงคโปร์ ล่าสุด คุณพ่อของน้องธันย์ เตรียมเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกสาวอย่างเต็มที่ สอดคล้องกับผู้พิพากษาชาวไทยที่เห็นว่าคดีนี้ยังไม่สิ้นสุด สามารถที่จะอุทธรณ์ได้

น้องธันย์ ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังใจ แม้จะรู้สึกผิดหวังกับศาลสูงสิงคโปร์ที่ตัดสินให้น้องธันย์แพ้คดี กรณีที่ตกรางรถไฟฟ้า MRT ที่สถานีอังมอเกียว เมื่อปี 2554 ทำให้ต้องเสียขาทั้ง 2 ข้าง ครอบครัวฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายกับบริษัทเดินรถไฟฟ้าสิงคโปร์ SMRT และการขนส่งทางบกสิงคโปร์ เป็นเงินราว 112 ล้านบาท ด้วยเหตุผลไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเพียงพอ แต่ศาลสูงยกฟ้องเพราะเห็นว่าจำเลยทั้ง 2 หน่วยงาน มีการรักษาความปลอดภัยอย่างสมเหตุสมผลแล้ว อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความประมาทของตัวบุคคล

โดยน้องธันย์ ณิชชารีย์ กล่าวว่า "ยอมรับตรงๆ ว่าพอรู้คดีความ น้ำตาไหลเลย เพระาเราตั้งความหวังไว้ว่าอยากได้การดูแลสักนิดหนึ่ง เพระาอย่างน้อยเราก็เป็นชาวต่างชาติไปประสบอุบัติเหตุที่ประเทศเขา"

กว่า 2 ปี ที่น้องธันย์ไม่สามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติ หัวอกคนเป็นพ่อ ก็ต้องยอมทิ้งธุรกิจของครอบครัวเพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด หมดค่ารักษาพยาบาลนับล้านบาท โดยปราศจากการช่วยเหลือจากคู่กรณี

นายกิตต์ธเนศ เป็นเอกชนะศักดิ์ คุณพ่อของน้องธันย์ กล่าวว่า "ส่วนหนึ่งใช่เป็นความผิดพลาดของเขา แต่อีก 90 เปอร์เซนต์มันเป็นความผิดพลาดของรถไฟฟ้า ซึ่งเขาบอกว่ามันเซฟตี้อยู่แล้ว แล้วทำไมตอนนี้เขาถึงมาทำที่กั้น ก่อนน้องธันย์ตก ทำไมไม่ทำที่กั้นให้เรียบร้อย แล้วก็ทราบมาว่ากฎหมายของเขา เขาต้องทำที่กั้นให้หมดทุกสถานี เพราะว่าก่อนน้องธันย์จะตกไปมีตายมาแล้ว 24 คน"

ขณะที่นายทวี ประจวบลาภ ประธานศาลอุทธรณ์ ภาค 9 มองว่า แนวทางของคดีนี้ยังสามารถเปลี่ยนแปลงผลการตัดสินได้ แต่ต้องใช้ทนายความที่มีความเชี่ยวชาญ

"ตั้งแต่เปิดเรื่องมาก็เพิ่งได้ข่าวว่ามีการตัดสินครั้งนี้ครั้งแรก แสดงว่าไม่ได้ผ่านศาลไหนเลย ถ้าคำตัดสินในครั้งนี้ยังสามารถยื่นอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาของสิงคโปร์ได้ แต่ปัญหาว่าจะอุทธรณ์ได้แค่ไหนนั้นก็ต้องดูที่ข้อเท็จจริงในสำนวน เพราะทางเราไม่ทราบว่าทางนั้นมีการสืบพยานข้อเท็จจริงอย่างไร ทนายของฝ่ายโจทก์ที่ไปว่าจ้างมามีความเชี่ยวชาญอย่างไร ต้องนำข้อเท็จจริงในบริเวณสถานีมาชี้แจงทั้งหมด ฝ่ายจำเลยก็ต้องพิสูจน์ เพราะถ้าเขาไม่พิสูจน์ เขาก็ต้องรับผิดชอบ" ประธานศาลอุทธรณ์ ภาค 9 กล่าว

ด้วยหัวใจไม่ย่อท้อ มองโลกในมุมบวก น้องธันย์และครอบครัวยืนหยัดสู้คดีต่อ ไม่ใช่เพราะเงิน แต่ต้องการให้เป็นคดีตัวอย่างไม่ให้เกิดซ้ำรอย แต่ต้องการให้เป็นคดีตัวอย่างไม่ให้เกิดซ้ำรอย แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือการได้รับการเยียวยาไม่ใช่เพียงเงินชดเชย แต่รวมถึงการรักษาแผลกายไปพร้อมกับจิตใจ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ เปิดใจ "น้องธันย์ ณิชชารีย์" เหยื่อรถไฟฟ้าสิงคโปร์ทับขา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook