ผบ.ทบ.ไม่ยืนยันไม่ปฏิวัติบอกขนรถถังแค่สวนสนาม

ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ยืนยันไม่ปฏิวัติ หวัง ผู้ชุมนุม กปปส. ปิดกรุงเทพมหานคร 13 ม.ค ไม่ใช้ความรุนแรง แนะดูบทเรียนปี 53 บอกเคลื่อนย้ายรถถังแค่สวนสนาม ขณะที่ 'สุรนันทน์' เผย นายกฯ เชื่อใจ กองทัพไร้ปฏิวัติ อาจงดจัดงานทำเนียบฯ

พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกระแส่ข่าวที่ว่า กองทัพบก เคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์เข้ามาในกรุงเทพมหานคร เพื่อใช้ในการส่วนสนามในวันกองทัพไทย และเตรียมการปฏิวัตินั้น เป็นแค่ข่าวลือ ซึ่งการสวนสนามอาวุธมีการคิดมานานแล้ว เพราะต้องการแสดงให้คนกรุงเทพฯ เห็นว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ที่กองทัพบกจัดซื้อมานั้น มีประสิทธิภาพ และทันสมัยแค่ไหน ดังนั้น อย่าไปมองในสิ่งที่ยังไม่เกิด

ทั้งนี้ สำหรับการประกาศปิดกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 13 ม.ค. นั้น ส่วนตัวหวังว่าจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น แต่ถ้าเกิดเหตุความรุนแรง เกิดการจลาจลขึ้น รัฐบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ โดยขณะนี้ทหารทำดีที่สุด คือให้สถานการณ์หยุดนิ่งอยู่ขณะหนึ่ง ขออย่าให้ใช้ยาแรง ซึ่งทหารเองก็พร้อมดูแลประชาชนทุกฝ่ายทุกสี

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ขอให้ ผู้บัญชาการทหารบก ประกาศให้ชัดเจนว่าจะไม่ปฏิวัติ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ยืนยันว่าจะไม่เกิดการปฏิวัติ หรือไม่

 

ปลัดกห.เชื่อผบ.ทบ.ไม่ปฏิวัติยันไม่รุนแรงม็อบขอ2ฝ่ายคุย

พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีการทำบุญตักบาตร เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ประจำปี 2557 ของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ลานอเนกประสงค์ภายในศาลาว่าการกลาโหม โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ข้าราชการในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมในพิธีจำนวนมาก

ซึ่งหลังจากเสร็จพิธีการ พล.อ.นิพัทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ว่า จากการประชุม กอ.รมน. ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ของรัฐจะไม่มีการใช้ความรุนแรงในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนเรื่องที่ว่าจะมีการปฏิวัติหรือไม่นั้น ขอให้เชื่อมั่นในคำพูดของท่านผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่ได้ออกมาพูด

ทั้งนี้ยังกล่าวว่า ตนเองเชื่อ คนไทยอยากเห็นการพูดคุยกันแบบสันติ อยากขอให้ทั้ง 2 ฝ่าย ยื่นมือเข้าหากัน เพื่อลดความขัดแย้งในบ้านเมือง

 

นายกฯ ห่วงม็อบเชื่อใจกองทัพไร้ปฏิวัติ

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ในวันที่ 13 มกราคมนี้ และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดความสงบเรียบร้อยมากที่สุด ไม่ให้เกิดความรุนแรงรัฐบาลยินดี ที่จะอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่อยากเห็นการหันหน้าเข้ามาพูดคุยเจรจากันในเวทีปฏิรูปประเทศ เพื่อหาทางออกก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง พร้อม เชื่อใจว่ากองทัพจะไม่ทำการปฏิวัติ มองว่ากองทัพเป็นมืออาชีพ ที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศและทำตามหน้าที่ของตน หากทำการปฏิวัติจริง ประชาชนและนานาชาติก็จะไม่ยอมรับ

อย่างไรก็ตาม ย้ำว่ารัฐบาลจะต้องนำสถานการณ์ทุกอย่างให้ไปสู่การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. เพื่อรักษาระบอบ
ประชาธิปไตย แม้ว่าการเลือกตั้งไม่ใช่คำตอบทุกอย่าง แต่เป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตยและมีประชาชนจำนวนมากที่ต้องการออกมาใช้สิทธิ์ครั้งนี้  หากจะมีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จริงในการควบคุมสถานการณ์การชุมนุมจะต้องมีการหารือร่วมกัน และยืนยันว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังคงเป็นผู้อำนวยการ ศอฉ. ได้ โดยจะมีการใช้กำลังตำรวจเป็นหลักเนื่องจากยอมรับว่าตำรวจมีความอ่อนล้ามากและจะให้ทหารเข้ามาช่วยเสริมกำลังตำรวจ

ส่วนการจัดกิจกรรมวันเด็กปีนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล มีแนวโน้มที่จะไม่มีการจัดงาน เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล ไม่มีการเปิดพื้นที่ให้จัดกิจกรรม จึงมีความเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัย ในชีวิตเด็กและผู้ปกครอง ดังนั้น จึงฝากขอโทษไปถึงเด็กและผู้ปกครองด้วยว่า ปีนี้อาจจะไม่มีการจัดกิจกรรมดังกล่าว แต่
รัฐบาลก็จะพยายามประสานพูดคุยขอความร่วมมืออย่างเต็มที่ ภายใน 1 - 2 วันนี้ คาดว่าจะมีข้อสรุป