ศาลตัดสินคดีแก้รธน.ม.190-มท.1ไม่หวั่นไต่สวนกู้2ลล.

ศาลตัดสินคดีแก้รธน.ม.190-มท.1ไม่หวั่นไต่สวนกู้2ลล.

ศาลตัดสินคดีแก้รธน.ม.190-มท.1ไม่หวั่นไต่สวนกู้2ลล.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศาลรัฐธรรมนูญ เตรียมออกนั่งบัลลังก์วินิจฉัยคดี 383 ส.ส. - ส.ว.แก้ รธน. ม.190 ผิดหรือไม่ พร้อมไต่สวนคดี กู้ 2 ล้านล้านบาท ขณะที่ ''กิตติรัตน์'' เข้าแจงกู้เงิน 2 ลล. ต่อศาล รธน. แล้ว

นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ในวันนี้ เวลา 10.00 น. ทางองค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดไต่สวนพยานหลักฐานและพยานบุคคล คดีคำร้องร่างพระราชบัญญัติกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ว่าจะมีข้อความใดขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 169 และมาตรา 170 ซึ่งได้ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้ คดีดังกล่าว ศาลจะยังไม่วินิจฉัยในทันที ส่วนกรอบระยะเวลาจะเป็นเมื่อใดนั้น ขึ้นอยู่กับผลการไต่สวนจากพยานหลักฐานเป็นสำคัญ

นอกจากนี้ ภายหลังการไต่สวนคดีข้างต้นแล้ว องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก็จะออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยคดีที่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร, นายนิคม ไวยรัชพานิช และสมาชิกรัฐสภาอีก 381 คน ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ว่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครองขัดมาตรา 68 หรือไม่

อ่านคำวินิจฉัยเวลา 15.00 น. ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เป็นการไต่สวนพยานบุคคล และพยานผู้เชี่ยวชาญ 10.00 น. ยังไม่ตัดสินคดี แต่คดีที่ตัดสินเป็นคดีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190

 

'จารุพงศ์' ไม่หวั่นตัดสินคดีแก้รธน. ม.190

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ไม่ได้มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาไต่สวนพยานหลักฐานและพยานบุคคล คดีคำร้องร่างพระราชบัญญัติกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ว่าขัดรัฐธรรมนูญตามมาตรา 169 และ 170 หรือไม่ รวมถึง กรณีอ่านคำวินิจฉัยคดีแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ว่า เข้าข่ายล้มล้างการปกครองขัดมาตรา 68 หรือไม่แต่อย่างใด เพราะยึดมั่นว่าได้ทำถูกต้องตามขั้นตอน มุ่งประโยชน์ของชาติบ้านเมือง อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด เพราะรู้มาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ตัดสินใจกระโดดเข้ามาเล่นการเมือง ไม่กลัวว่าจะถูกยุบพรรค เพราะพรรคเพื่อไทย เดิมก็เคยถูกยุบมาแล้ว 2 ครั้ง ก็สามารถตั้งใหม่ได้ แต่ยังไม่มีการเตรียมการใดๆ สำรองไว้แต่อย่างใด

 

"วิรัตน์"รอลุ้นศาลรธน.ชี้ขาดแก้ม.190

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าในวันนี้ จะเดินทางไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ร่วมรับฟังการอ่านคำวินิจฉัยคดีแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ว่า เข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่ด้วยและหากมีคำวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญ พรรคประชาธิปัตย์ ก็จะเดินหน้าล่ารายชื่อ 20,000 รายชื่อ ยื่นถอดถอน ดำเนินคดีกับผู้เข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรานี้ต่อไปด้วย

 

ศาลรธน.เริ่มไต่สวนคดีพ.ร.บ.กู้เงิน2ลล.แล้ว

บรรยากาศที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญขณะนี้ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดไต่สวนพยานหลักฐานและพยานบุคคล คดีคำร้องที่ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความเห็นของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 วรรคหนึ่ง (1) ว่า ร่างพระราชบัญญัติกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท มีข้อความใดขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 169 และมาตรา 170 หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

โดยขณะนี้ พยานทั้งจากฝ่ายผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง ได้ทยอยเดินทางมาถึงแล้ว อาทิ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รอง
นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นตัวแทนฝ่ายรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้เสนอความเห็น นายกรณ์ จาติกวณิช ประธาน ส.ส. กทม. นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. สรรหา นางสุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี พร้อมด้วยพยานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายดิสทัต โหตระกิตย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา นายภัทรชัย ชูช่วย ตัวแทนผู้ตรวจเงินแผ่นดิน นายชนรรค์ พุทธมิลินประทีป รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เป็นต้น

 

'กิตติรัตน์' เข้าแจงกู้เงิน 2 ลล. ต่อศาล รธน. แล้ว

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางมายังสำนักงาน
ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ถ้อยคำต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความ
เห็นของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 วรรคหนึ่ง (1)
ว่า การออก ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของ
ประเทศ หรือ ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 169 วรรคหนึ่ง
และมาตรา 170  หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

โดย นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า วันนี้จะมาชี้แจงไปตามที่ดำเนินการมา ซึ่งได้มีการชี้แจงไปแล้วที่สภาผู้แทนราษฎร และคงจะชี้แจงในเนื้อหาลักษณะเดียวกันต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งได้เตรียมให้ข้อมูลเชิงกฎหมาย ซึ่งเชื่อว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และคณะรัฐมนตรีเป็นอย่างมาก และหากร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ สามารถผ่านไปได้ รัฐบาลในอนาคต สามารถดำเนินการได้ทันทีในกรอบวงเงิน 2 ล้านล้านบาท และมีอายุไปถึง พ.ศ. 2563 ทั้งนี้ คณะตุลาการจะเริ่มไต่สวนผู้ร้องและผู้ถูกร้องในคดีดังกล่าวในเวลา 10.00 น.


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook