นายกฯห่วงมือ3ป่วนม็อบปัดย้ายศอ.รส.-ปฏิวัติไร้ประโยชน์

นายกรัฐมนตรี ห่วงมือที่ 3 ป่วน ม็อบ กปปส. จี้ 'สุเทพ เทือกสุบรรณ' รับผิดหากสถานการณ์รุนแรง พร้อมระบุปฏิวัติไม่เกิดประโยชน์ประเทศ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า การเคลื่อนไว้ทางการเมือง
การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. วันที่ 13 มกราคมนี้ ยืนยันว่าจะยังใช้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. ตามเดิม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะพยายามทำความเข้าใจกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือชาวกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งจะดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่ เตรียมการช่วยเหลือ ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง รัฐบาลพยายามทำทุกวิถีทางให้เกิดความสงบเรียบร้อย ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ใช้ความอดทน ขณะที่ เป็นห่วงมือที่ 3 ที่เตรียมเข้ามาสร้างสถานการณ์ จึงขอความร่วมมือกลุ่มผู้ชุมนุมให้ชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ และไม่ให้เกิดความรุนแรง ก็จะคลายความกังวลเพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่ง และเลี่ยงการปะทะ ซึ่งทางรัฐบาลไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น จะส่งผลไม่ดีต่อภาพรวม ทั้งนี้หากเหตุการณ์บานปลายเกิดความรุนแรงเกิดขึ้น มีการเรียกร้องให้ทาง นายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. มาร่วมกันรับผิดชอบประคับประคองสถานการณ์

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องร่วมกันรับผิดชอบ และต้องดูในรายละเอียดว่าเกิดจากฝ่ายใด ซึ่งห่วงว่า
อาจจะเกิดจากมือที่ 3 โดยมองว่าวันนี้รัฐบาลได้ยุบสภาแล้ว ตนมีเพียงหน้าที่ในการปฏิบัติงานให้เดินหน้าต่อไป และการถอย หรือลาออกไม่ใช่คำตอบที่จะต้องมาถามตนแล้ว เนื่องจากวันนี้ต้องหันมาพูดคุยกัน จึงจะเป็นทางออกในการแก้ปัญหา ทั้งนี้ ไม่มีใครอยากให้มีการปฏิวัติ เพราะไม่เกิดประโยชน์ให้กับประเทศ จึงขอร้องกลุ่มผู้ชุมนุมให้หันหน้าเข้ามาพูดคุยกันโดยใช้สภาปฏิรูปประเทศ หาคนกลางมาพูดคุยเปิดเวทีเชื่อมโยงความต้องการให้ตกผลึกได้ข้อสรุปจะดีกว่า

 

ศอ.รส.ห่วงมีที่3ป่วนม็อบปิดกรุงจ่อปรับแผนรับมือ

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ศอ.รส. เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีการลักลอบขนอาวุธเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างสถานการณ์ที่รุนแรง กรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ประกาศ ปิด กทม. ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการเตรียมแผนมาตรการรองรับในส่วนนี้ไว้เรียบร้อยแล้วพร้อมกันนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลของทีมสืบสวนสอบสวน และทีมต่างๆ ที่ได้มีการแบ่งหน้าที่ เพื่อตรวจสอบข้อมูลทางการข่าว โดยได้ให้มีการออกตรวจ และจัดตั้งจุดตรวจเข้มในแต่พื้นที่ ระมัดระวังป้องกันเหตุโดยการทำงานร่วมกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร รวบรวมข้อมูลเพื่อเตรียมปรับแผนยุทธวิธีการปฏิบัติรองรับโดยเฉพาะการสร้างสถานการณ์ของผู้ไม่หวังดี แม้ทาง ศอ.รส. จะมีมาตรการรองรับอยู่แล้วก็ตาม แต่ยังคงไม่ไว้วางใจและเป็นกังวลในเรื่องของมือที่ 3 อยู่ ประกอบกับ ทาง ศอ.รส. จะมีการชี้แจงในรายละเอียดของการปรับแผนการปฏิบัติรับมือเป็นระยะๆ อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกำลังทหารที่ได้มีการประสานขอความร่วมมือไปแล้วนั้น ก่อนถึงวันที่ผู้ชุมนุมประกาศปิดกรุงเทพฯ จะมีกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาสนับสนุนดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่เพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่งด้วย