กปปส.ปักหลักรอชัตดาวน์13ม.ค.-ถาวร เชื่อคนมากขึ้น
'ถาวร' มั่นใจ 13 ม.ค.มวลชน มากกว่าเมื่อ 22 ธ.ค.ปีก่อนแน่นอน เตรียมทำความเข้าใจ ปชช.รอบอนุสาวรีย์ชัยฯ กลุ่มรถตู้ ยืนยัน ไม่ปิดกั้นการทำมาหากิน
นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส.เปิดเผยกับสำนักข่าว INN ว่า จากการเดินรณรงค์ ทั้ง 3 วัน มีประชาชนให้การต้อนรับคับคั่งมากกว่าเดิม ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ประชาชนมีความกล้าในการแสดงออกถึงการต่อต้านรัฐบาลมากขึ้น โดยเฉพาะกล้าออกมาชุมนุมและกล้าจะนำเงินมาสนับสนุนการเคลื่อนไหวของ กปปส. ทำให้มีความมั่นใจอย่างเต็มที่ว่า ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ ก็จะมีมวลชนออกมาร่วมชุมนุมปิดกรุงเทพฯ มากกว่าเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา อย่างแน่นอน
พร้อมกันนี้ นายถาวร ยังได้กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ จะประจำเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งเป็นจุดสำคัญ โดยไม่กังวลว่าจะเกิดปัญหาหรือผลกระทบกับประชาชนโดยรอบ ซึ่งได้ตั้งทีมงานเข้าไปประสานกับประชาชนแล้ว รวมไปถึงกลุ่มรถตู้ ที่ออกมาคัดค้าน ก็จะทำการพูดคุยในวันนี้ เพื่อหาทางออกร่วมกัน โดยที่ยืนยันว่า จะไม่ปิดกั้นเส้นทาง และจะประสานจัดที่จอดรถเพื่ออำนวยความสะดวกให้ด้วย ขอเพียงอย่างเดียว อย่าเชื่อคำยุแหย่ของเจ้าหน้าที่ เพราะว่า ทางกปปส.ไม่ได้มุ่งทำให้ประชาชนผู้ทำมาหากินโดยสุจริตเดือดร้อนแต่อย่างใด
สำหรับการตั้งเวที ทั้ง 7 จุด คาดว่าจะตั้งเสร็จภายในช่วงกลางคืนวันที่ 12 ม.ค. และสามารถเปิดเวที ในวันที่ 13 ได้ตั้งแต่เช้าตรู่ทันที โดยจะมีการ์ดอาสาดูแลความปลอดภัยอย่างน้อยเวทีละ 200 คน
กปปส.ราชดำเนินยังปักหลัก-พักผ่อน
บรรยากาศการชุมนุมของ กลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน บรรยากาศเช้านี้อากาศค่อนข้างหนาวเย็น ซึ่งหลังจากที่เมื่อวานนี้ ประชาชนเหน็ดเหนื่อยกับการเดินรณรงค์เชิญชวนชาวกรุงเทพมหานคร ให้ออกมาร่วมขับไล่รัฐบาลรักษาการ ในวันที่ 13 ม.ค. โดยขณะนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงนอนและนั่งพักผ่อนอยู่ในเต็นท์ที่พัก และบางส่วนได้ทยอยดื่มกาแฟเพื่อสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย
ขณะที่เต็นท์ครัวอาสา ได้ทยอยประกอบอาหารเช้าไว้แจกจ่ายแก่ผู้ชุมนุม ส่วนบนเวที มีการถ่ายทอดรายการข่าวโทรทัศน์ ผ่านจอโปรเจคเตอร์ให้ผู้ชุมนุมได้รับชมรับฟัง ด้านการรักษาความปลอดภัย มีการวางกำลังการ์ดดูแลอยู่ทุกจุดอย่างเข้มงวด
'อิสสระ'จี้'วรพงษ์'แจงอาวุธที่หายหวั่นโยนผิดให้ม็อบ
นายอิสสระ สมชัย แกนนำ กปปส. เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขอบคุณ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผู้บัญาการตำรวจแห่งชาติ ที่ห่วงเรื่องการใช้อาวุธ แต่ขออย่าตื่นตระหนก หรือเขียนเสือให้วัวกลัว เนื่องจาก มีการเตรียมพร้อมไว้แล้ว โดยยืนยันว่าจะไม่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นจากกลุ่ม กปปส. อย่างแน่นอน อีกทั้ง ยังมีนักศึกษาหลายมหาวิทยาลัยมาช่วยเป็นคณะทำงาน และการตั้งเวทีก็ไม่ใช่จุดล่อแหลม จึงอยากขอให้ตำรวจระวังมือที่ 3 ดีกว่า ทั้งนี้ อยากให้มีการชี้แจงและแสดงหลักฐานว่าอาวุธที่หายไปนั้น เป็นชนิดใดและจำนวนเท่าใด เพราะหากมีเหตุเกิดขึ้น จะเป็นการโยนความผิดให้กับผู้ชุมนุมได้ และขอรับรองว่า เส้นทางที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยืนยันว่าจะปิดตาย มีจุดผ่อนปรนให้ ประชาชนไม่เดือดร้อน ส่วนเวทีประชาชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือนั้น จะใช้การ์ดอาสา โดยให้ใช้วาจาที่สุภาพ ห้ามดื่มสุรา และต้องคุ้มครองดูแลความปลอดภัยผู้ชุมนุมให้ได้ ส่วน ศอ.รส. ขณะนี้ยังไม่มีการประสานมาว่าจะขอพูดคุยกับทางกลุ่ม
เวทีกปปส.เริ่มเปิดเพลงและทักทายมวลชน
บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ล่าสุดอากาศเริ่มอบอุ่น ขณะที่ประชาชนส่วนหนึ่งยังคงพักผ่อนอยู่ในเต็นท์ที่พัก บางส่วนได้ทยอยรับประทานอาหารเช้าจากเต็นท์ครัวอาสาที่ได้จัดเตรียมรองรับไว้ และอีกส่วนหนึ่งได้ออกมานั่งบริเวณด้านหน้าเวที ส่วนกิจกรรมบนเวทีมีการขึ้นกล่าวทักทายประชาชนผู้ชุมนุม สลับกับการเปิดเพลงเพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศให้กับประชาชนผู้ร่วมชุมนุม
นอกจากนี้ การรักษาความปลอดภัยนั้น มีการวางกำลังการ์ดดูแลอยู่ทุกจุดอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเข้ามาก่อกวนจากผู้ที่ไม่หวังดี
'เอกนัฏ'โวเดินรณรงค์เมื่อวานนี้ได้ผลตอบรับดี
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ได้กล่าวถึงผลการตอบรับจากการเดินรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนในกรุงเทพมหานคร ออกมาร่วมกันปิดกรุงเทพฯ ในวันที่ 13 ม.ค. ทั้ง 3 วันที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากให้การสนับสนุน และสื่อต่างประเทศมีความเข้าใจในสถานการณ์บ้านเมืองของประเทศไทยมากขึ้น
นอกจากนี้ นายเอกนัฏ ยังได้กล่าวว่า ในขณะนี้มีการบั่นทอนพลังมวลมหาประชาชน โดยการติดป้ายที่มีข้อความ 2 ลักษณะ คือ "หยุดสุเทพ ปิดกรุงเทพ ประเทศไทยพังพินาศ" และ "พอกันที หยุดการชุมนุมที่สร้างเงื่อนไขนำไปสู่ความรุนแรง" ซึ่งตนเองคาดว่า บุคคลที่สั่งให้ติดนั้น จะต้องมีเงินและมีอำนาจ จึงอยากเรียกร้องให้หยุดการติดป้ายในลักษณะนี้ เพราะอาจทำให้ประชาชนไม่พอใจ
ทั้งนี้ ในวันที่ 11 ม.ค. 57 ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. ทาง กปปส. จะจัดกิจกรรมวันเด็ก ภายใต้ชื่อ "สร้างคนาคตชาติ ที่ราชดำเนิน"