กกต.ขนเอกสารหนีม็อบ-สมชัยจี้นายก ออกพรฎ.เลื่อนลต.

เจ้าหน้าที่ กกต.ทยอยนำเอกสารไปปฏิบัติงานในสถานที่สำรอง หลัง กปปส.ประกาศปิดสถานที่ราชการ ขณะที่ 'สมชัย' จี้ นายกฯ ออกพ.ร.ฎ.เลื่อนเลือกตั้งก่อน26 ม.ค. 'นิคม'บอกรัฐไร้อำนาจเลื่อน เป็นไปได้ปฏิวัติ -'สุรพงษ์' ฉะ กกต.แจงเหตุผล6ข้อไม่จัดเลือกตั้งจี้หาช่องทาง

บรรยากาศที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในขณะนี้เหล่าบรรดาข้าราชการเจ้าหน้าที่ของ กกต. ได้เดินทางทยอยนำเอกสาร ข้าวของสำคัญต่างๆ ออกจากสำนักงาน กกต. ภายในอาคารศูนย์ราชการแล้ว เพื่อจะเตรียมเคลื่อนไปปฏิบัติงานในสถานที่สำรอง 4 แห่ง หลังทางกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ประกาศจะมีการ Shut Down กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 13 มกราคม นี้ โดยปิดสถานที่สำคัญต่างๆ รวมทั้งศูนย์ราชแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของสำนักงาน กกต.ด้วย

สำหรับสถานที่สำรองในการทำงานของ กกต.ทั้ง 4 แห่งนั้น ประกอบด้วย ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เขตบางเขน มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จังหวัดนนทบุรี และ สำนักงาน กกต.ประจำ จ.ชลบุรี

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่พบคณะกรรมการการเลือกตั้ง เดินทางมายัง กกต.แต่อย่างใด ทั้งนี้มีรายงานว่า ในช่วงบ่าย คณะกรรมการการเลือกตั้ง จะทยอยเดินทางมาเก็บของสำคัญๆ ด้วยเช่นกัน

 

สมชัยจี้นายกฯออกพรฎ.เลื่อนลต.ก่อนลงคะแนนล่วงหน้า

รองศาสตราจารย์ สมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า กกต. ยังไม่ได้การตอบรับจากทางฝ่ายรัฐบาลว่ามีท่าทีอย่างไรต่อกรณีการทำหนังสือไปยัง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ที่ได้ขอให้พิจารณาทบทวนออกพระราชกฤษฎีกาเลื่อนวันเลือกตั้งหรือกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ ทั้งนี้ คงต้องรอคำตอบจากทางนายกฯ และรัฐบาล แต่อยากเรียกร้องนายกรัฐมนตรี ให้เร่งตัดสินใจพิจารณาเรื่องดังกล่าว ก่อนถึงวันลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงหน้า ในวันที่ 26 มกราคม นี้ เพราะหากปล่อยให้ยืดเยื้อออกไป กกต.เป็นห่วงจะเกิดผลกระทบต่องบค่าใช้จ่ายจัดการเลือกได้ ซึ่งจะทำให้สูญเสียงบโดยเปล่าประโยชน์

อย่างไรก็ตาม ยอมรับ ไม่มั่นใจ จะได้รับคำตอบจากนายกรัฐมนตรี ว่าจะพิจารณาทบทวนข้อเสนอของ กกต.หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้คงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีเองว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร พร้อมแสดงความเป็นห่วงว่า หากนายกฯ ยังเดินหน้าต่อไป ปัญหาต่างๆ จะตามมา และห่วงสถานการณ์อาจบานปลายและรุนแรงได้

 

นิคมบอกรัฐไร้อำนาจเลื่อนลต.รับเป็นไปได้ปฏิวัติ

นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิภา ระบุว่า ทั้งรัฐบาล และคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ต้องเดินหน้าจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้ ตามที่มีพระราชกฤษฎีกา โดยไม่มีกฎหมายรองรับการเลื่อนหรือกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ ขณะที่การประกาศขัดขวางการเลือกตั้ง ของกลุ่ม กปปส. เป็นเรื่องไม่เหมาะสม และขัดต่อกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า หากทุกฝ่ายยึดหลักของเหตุและผลก็จะไม่เกิดปัญหาบานปลาย ทั้งนี้ยอมรับว่าการก่อปฏิวัติ รัฐประหาร มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่ขอให้กองทัพพิจารณาด้วยความรอบคอบเพราะการดำเนินการจะส่งผลเสียหายต่อประเทศ

นอกจากนี้ นายนิคม ยังชี้แจงการขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ และร้องขอให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง กรณีเสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่มา ส.ว. ต่อ ป.ป.ช. พร้อม
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากติดภารกิจ ซึ่งได้แจ้งต่อ ป.ป.ช. แล้ว และ
ทราบว่า ป.ป.ช.จะส่งหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาและนัดหมายชี้แจงโดยยืนยันความพร้อมทั้งด้านเอกสารและหลักฐาน

 

ปชป.แนะนายกฯฟังกกต.ออกพ.ร.ฎ.เลื่อนลต.

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายหน่วยงานองค์กรอิสระ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ และถูกต่อต้านจากคนในรัฐบาลต่อเนื่อง โดยกล่าวหาว่า หน่วยงานเหล่านี้ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างอิสระแท้จริง ซึ่งหลายครั้งเมื่อองค์กรอิสระ หรือ ศาล ตัดสินคดีที่มีผลตรงข้ามกับรัฐบาล คนในรัฐบาลจะมีพฤติกรรมต่อต้านและไม่ยอมรับการตัดสิน แต่ถ้าหากตัดสินเรื่องใด ที่เป็นคุณและเป็นประโยชน์ คนในรัฐบาลก็จะสรรเสริญ และขอบคุณองค์กรเหล่านั้น ดังนั้น ตราบใดที่คนในรัฐบาล ไม่สามารถยอมรับการตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ และการทำงานขององค์กรอิสระได้ ก็เสมือนการทำลายองค์กรอิสระ อย่างสิ้นเชิง และเป็นตัวสร้างปัญหาประเทศเอง ไม่ใช่ประชาชน หรือหน่วยงานรัฐ

อย่างไรก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้กำลังใจองค์กรอิสระในการทำหนัาที่อย่างเป็นธรรมตรงไปตรงมา และยึดถือความถูกต้อง

นายองอาจ ยังกล่าวถึง มติ กกต.ที่เสนอเรื่องถึงนายกรัฐมนตรี ให้ยกร่างพระราชกฤษฎีกา กำหนดวันเลือกตั้งใหม่นั้น พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า กกต.ต้องทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลฟังเสียงของ กกต.ด้วย เพราะหน้าที่หลักการดำเนินการเลือกตั้ง เป็นอำนาจ กกต. ซึ่งที่ผ่านมา มีปัญหาต่อเนื่อง และหากปล่อยไป ก็จะส่งผลต่อวันเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ไม่ต่างจากวันรับสมัคร ซึ่งการที่รัฐบาลไม่ฟังเสียง กกต. ก็เสมือนรัฐบาล ต้องการนำประเทศสู่หลุมดำเร็วขึ้น ดังนั้น สิ่งสำคัญขณะนี้อยู่ที่ความจริงใจของรัฐบาลที่ต้องกล้าตัดสินใจ เพื่อแก้ปัญหาประเทศ

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงเหตุปะทะระหว่างกลุ่ม กปปส.ปทุมธานี และกลุ่มเสื้อแดงนั้น มองว่า กลุ่มเสื้อแดง ก็ยังมีความพยายามทำให้เกิดความรุนแรง โดยรัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้ เพราะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลก็ไม่ดำเนินการใดๆ ทางคดี จึงเท่ากับว่ารัฐบาลรู้เห็นเป็นใจและมีวัตถุประสงค์แอบแฝงหรือไม่ เพราะหากไม่ใช่รัฐบาล ควรมีหาแนวทางป้องกัน จึงขอเรียกร้องนายกรัฐมนตรี ให้คุ้มครองประชาชนทุกฝ่าย เข้ามาดูแลไม่ให้เกิดเหตุปะทะอีก

 

สุรพงษ์ย้ำไร้กม.เลื่อนลต.จี้กกต.หาช่องทาง

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวชี้แจงกรณี
คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. แถลงเหตุผลสำคัญ 6 ประการ ที่เสนอขอให้รัฐบาลพิจารณาออกพระราช
กฤษฎีกา เลื่อนการเลื่อนตั้งทั่วไป ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นี้ โดยยืนยันว่า ไม่มีกฎหมายข้อใด ที่จะสามารถกระทำได้ แต่หาก กกต.เห็นว่า มีช่องทางใดก็ขอให้เสนอมายังรัฐบาลให้ชัดเจน โดยนำข้อกฎหมายต่างๆ มาประกอบด้วย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาส่วนตัว มองว่า กกต. ยังปฏิบัติหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งไม่เต็มที่ และไม่มีความพยายามในการแก้ไขปัญหา ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลได้พยายามเสนอแนะวิธีการต่างๆ แล้ว แต่ว่า กกต.กลับเพิกเฉย จนคล้ายว่าไม่สนับสนุนให้มีการจัดการเลือกตั้งทั่วไป

พร้อมกันนี้ นายสุรพงษ์ ได้เรียกร้องไปยัง กกต.ให้ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้ถึงที่สุด รวมถึงให้มีการแจ้งความ
ดำเนินคดีกับผู้ที่ขัดขวางการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย