สภายูเครนผ่านกฎหมายห้ามชุมนุมโทษสูงสุด5ปี
สภาผู้แทนราษฎรยูเครน ผ่านกฎหมาย 'ห้ามชุมนุม' แล้ว โดยระบุโทษสูงสุด 5 ปี สร้างความไท่พอใจให้แกนนำประท้วงอีกระลอก
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ในวันนี้ (17 ม.ค.) สภาผู้แทนราษฎรยูเครน ผ่านกฎหมาย "ห้ามชุมนุมประท้วง" ซึ่งมีระวางโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี ตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดี (16 พ.ค.) ซึ่งเห็นได้ชัดว่า เป็นความพยายามของรัฐที่จะสกัดกั้นประชาชนนับแสนที่ออกมาชุมนุมต่อต้านประธานาธิบดี วิกเตอร์ ยานูโควิช
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวเพิ่มเติมว่า ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซึ่งยังคงปักหลักชุมนุม ในกรุงเคียฟ มานานเกือบ 2 เดือน เนื่องจากไม่พอใจที่ ประธานาธิบดี ยานูโควิช ยกเลิกแผนเจรจาความร่วมมือด้านการค้าและการเมืองกับสหภาพยุโรป (อียู) และหันไปเจรจาการค้าร่วมกับรัสเซีย แทน ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายฉบับใหม่นี้ ซึ่งผ่านสภาด้วยคะแนนเสียง 235 จากทั้งหมด 450 เสียง ระบุอย่างชัดเจนว่า ผู้ชุมนุมที่ปิดอาคารสถานที่สาธารณะ จะมีโทษ จำคุกสูงสุด 5 ปี ส่วน ส.ส. หรือ ผู้ประท้วงที่สวมหน้ากาก หรือหมวกปิดบังใบหน้านั้น ต้องถูกปรับเงิน หรือถูกจับกุมทันที
อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับนี้ยังห้ามไม่ให้มีการเผยแพร่ข้อความดูหมิ่นผ่านสื่อออนไลน์ใดๆ โดยผู้ฝ่าฝืนจะต้องโทษปรับหรือถูกบังคับใช้แรงงานสูงสุด 1 ปี ซึ่งสร้างความไม่พอใจอีกระลอกต่อผู้ชุมนุมในกรุงเคียฟ บรรดาผู้นำฝ่ายค้าน ต่างออกมาประท้วงกฎหมายความมั่นคงฉบับล่าสุด เนื่องจากเกรงว่า รัฐบาลจะนำมาเป็นเครื่องมือ จับผิดผู้ชุมนุมอย่างไม่เป็นธรรม เพื่อที่ต้องการจะเข้าสลายการชุมนุม นั่นเอง