ศอ.รส.ชี้ มือบึ้มบรรทัดทอง แฝงตัวในม็อบ
ศอ.รส. 19 ม.ค. - ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) โดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ และ พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงถึงเหตุระเบิดหลังจากสอบสวนข้อเท็จจริง แถลงถึงกรณีเหตุการณ์ระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง ที่ทำให้กลุ่มผู้ร่วมชุมนุมเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บกว่า 30 ราย นั้น ศอ.รส.ได้เร่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนสืบสวนหาข้อเท็จจริงและหาตัวคนร้ายที่ปาระเบิดมาลงโทษอย่างรวดเร็ว
ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจภายหลังจากที่ กปปส.ได้ให้ความร่วมมือและอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเก็บหลักฐานในพื้นที่ได้ โดยได้ปรากฏข้อเท็จจริงและข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ปาระเบิดในครั้งนี้หลายประการ
ศอ.รส.จึงขอวิงวอนให้ผู้ร่วมชุมนุมระมัดระวังและเฝ้าจับตามองบุคคลแปลกปลอมที่ไม่ประสงค์ดีและพยายามสร้างสถานการณ์ หรือก่อเหตุร้ายในระหว่างการชุมนุมไว้ด้วย และหากพบเห็นสิ่งปกติขอให้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบด้วย
นายสุรพงษ์กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนหาข้อเท็จจริงและจะหาคนร้ายมาลงโทษใหัได้ จากการสอบสวนของตำรวจที่เข้าไปเก็บรวบรวมหลักฐาน ปรากฏข้อเท็จจริงหลายประการ พบว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ให้รุนแรง มีเป้าหมายให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ ไม่ได้มุ่งร้ายแกนนำดังที่มีความพยายามสร้างเรื่องบิดเบือน และหลังเกิดเหตุตำรวจไม่สามารถเข้าพื้นที่ไปเก็บหลักฐานได้ แสดงว่ามีความพยายามสร้างสถานการณ์ใส่ร้ายรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลขอแสดงความเสียใจและประณามผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ในครั้งนี้ และวิงวอนผู้ชุมนุมระวังและเฝ้าจับตาคนแปลกปลอมไม่หวังดี พยายามสร้างสถานการณ์ระหว่างการชุมนุม และขอให้เก็บข้อมูลเป็นหลักฐานแจ้งให้ตำรวจทราบ อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องขอกำลังทหารเข้ามาดูแลสถานการณ์เพิ่มเติม เพราะขณะนี้มีตำรวจ ทหาร เป็นกำลังผสมคอยดูแลอยู่แล้ว
พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประณามเหตุระเบิดครั้งนี้ว่า รุนแรงโหดเหี้ยม หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ตามหลักวิชาการและกฎหมาย หาข้อเท็จจริงเก็บพยานหลักฐานสอบพยานบุคคล และนำภาพที่บันทึกจากซีซีทีวี และสื่อมวลชน พบว่ากรณีที่พบบีบีกันห่างจากจุดระเบิด ดังนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นจุดที่คนร้ายก่อเหตุ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ทันที การ์ด กปปส. อนุญาตให้ทหารเข้าก่อน จากการสืบสวนพบว่าโอกาสที่ระเบิดจะถูกโยนจากอาคารโดยรอบเป็นไปได้ยาก เพราะมีสิ่งกีดขวาง และวิถีระเบิดจากมุมสูงจะมีต้นไม้ สายไฟ เป็นอุปสรรรค
ขณะที่จากการตรวจสอบกล้องซีซีทีวีและกล้องสื่อมวลชนสามารถยืนยันข้อเท็จจริงที่ไม่สามารถแต่งเติมได้ปรากฏหลักฐานชัดเจน บริเวณระเบิดเป็นพื้นที่ว่าง ถ้ามีวัตถุตกต้องสามารถตรวจสอบได้ จึงเชื่อได้ว่าไม่มีใครโยนมาจากที่สูง
ทั้งนี้ จากการสอบสวนยังพบชายต้องสงสัยสวมหมวกขาวเดินเร็วจากท้ายขบวน วางระเบิดแลัวหลบเข้าที่กำบัง ซึ่งเป็นตู้เหล็กชุมสายโทรศัพท์ หลังระเบิดคนขับปิ๊กอัพลงไปหาชายคนดังกล่าว จากนั้นชายต้องสงสัยสองคนเข้าไปเก็บวัตถุบางอย่างบนพื้นโดยไม่สนใจคนเจ็บจากเหตุระเบิด ชี้ให้เห็นว่ามีการทำงานเป็นทีม และผู้ก่อเหตุคือผู้ที่ร่วมเดินทางกับผู้ชุมนุม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว และต้องดูหลักฐานก่อนว่าจะสามารถออกหมายจับได้หรือไม่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ตร.ยันอีกครั้ง! ปืนบีบีกัน-ระเบิดขว้างจากตึก