ปลอดประสพ เหน็บท่าทีปชป. ทวนความจำ อภิสิทธิ์

(22 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลงในเฟซบุ๊ก ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี โดยบอกว่า ขอทบทวนความจำให้อดีตนายกอภิสิทธิ์ และวิจารณ์ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ก.พ. โดยข้อความทั้งหมดมีดังนี้

"มาทบทวนความจำกันหน่อยไหมครับ ท่านอดีตนายกอภิสิทธิ์

วันนี้ผมขออนุญาตวิจารณ์ท่าที (แปลกๆ) ของพรรคประชาธิปัตย์ ในเรื่องการเลือกตั้งทั่วไป 2 ก.พ. ซึ่ง ปชป. บอยคอตการเลือกตั้ง ซึ่งก็แปลว่าไม่เกี่ยวข้องไปแล้ว แต่เหตุไฉนจึงออกมาให้สัมภาษณ์กันรายวันรายชั่วโมง แสดงอาการติโน่น ติงนี่ เหมือนมีเยื่อใย ยิ่งสังเกตพฤติกรรมของ กกต. (คนนั้น) ที่เรียกร้องให้รัฐบาลเลื่อนการเลือกตั้ง (ไม่ใช่เลื่อนวันเลือกตั้ง) ทำให้ยิ่งคิด (โดยปราศจากข้อสงสัย) ปชป.ลึกๆ คงเสียใจที่ตัดสินใจผิด (ท่านอภิสิทธิ์โดนเต็มๆ และน่าจะตามที่ท่านถนัดคือ กำลังวางแผนจะหวนคืนมาลงสมัครอีก (ช้าไปแล้วครับ...ต๋อย)

ในบรรดาอาการ (จริต) ทั้งหลายเหล่านี้ ที่น่าสนใจที่สุดคือ โซเชียลมีเดียของท่านอดีตนายกอภิสิทธิ์ (นายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติยิ่ง จึงควรให้ความนับถือไม่ใช่การด่าทอ ตามที่กระทำอยู่) เมื่อวันที่19 มกราคม 2557 จึงขอย่อ ออกมาและแสดงความเห็นต่าง ดังนี้

1. ท่านว่าการปฎิรูปจะสำเร็จ ผู้ดำเนินการต้องเป็นผู้มีความน่าเชื่อถือ

คำแย้ง : ปชป. ได้รับความเชื่อถือมากกว่าเพื่อไทยแบบไหนครับ ในการเลือกตั้งครั้งสุดท้าย เพื่อไทยได้ ส.ส. จำนวน 265 คน และคะแนน Party lists 15.7 ล้านคน (ปชป. มี ส.ส. 116 คน และคะแนน Party lists 11.4 ล้านคน) ความเชื่อถือในบริบทประชาธิปไตยเขานับคะแนนกันครับ (หมายถึงให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเลือกว่าใครน่าเชื่อถือสมควรมาบริหารประเทศ)

2. ท่านระบุว่า รัฐบาลอยู่ในฐานะของคู่ขัดแย้ง ไม่สามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้ (การปฎิรูป)

คำแย้ง : ปชป. ไม่ใช่คู่ขัดแย้งหรือครับ แล้วทำไมจึงโมเมว่าทำได้ เพราะเห็นกันชัดๆ ว่า ส.ส.ปชป.ลาออก ไปเป็น กปปส. ในขณะที่ ส.ส. คนที่ยังไม่ออกก็ไปเดินขบวนเต็มถนนไปหมด (รวมท่านนายกอภิสิทธิ์ และ ท่านนายกชวน ด้วย) จึงปราศจากข้อสงสัยว่า ปชป. เป็นฝ่าย กปปส. จึงอยู่ในฐานะคู่ขัดแย้งกับรัฐบาล

3. ท่านอ้างต้องปลดล็อครักษาการนายกรัฐมนตรีก่อนปฎิรูป

คำแย้ง : มันคนล่ะเรื่องกันนะครับ การปฎิรูปทำโดยตัวแทนทุกภาคส่วนและทุกองค์กร รวมถึง ปชป.ด้วย แต่ท่านก็ปฎิเสธ (เอาใจยากจัง) และท่านก็ทราบดีว่าการรักษาการนั้นเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ (ที่พวกท่านเขียนเอง ) ท่านต้องการปลดล็อคให้เป็น ม.7 ใช่ไหมครับ

4. ท่านกล่าวหา กกต. ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งให้สุจริตเที่ยงธรรมได้ (แปลว่าถ้าเลื่อนแล้วคงหารูหาช่องอะไรที่วิ่งไปสู่ความสุจริตได้อะไรทำนองนั้น หรือท่านก็ไม่เชื่อว่า กกต.จะจัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรมได้)

คำแย้ง: ผมว่าท่านคงท้องผูก จึงฝันร้ายกระมั้งครับ (สุจริตที่แปลว่าซื้อเสียงนั้น กรุณาไปทบทวนดูมติ กกต. ลงโทษผู้สมัครพรรค ปชป. ในการเลือกตั้งที่ราชบุรี มิใช่หรือ) ท่านคิดว่าคราวนี้ ท่านไม่มีโอกาสได้ใช้เงินจึงไม่สุจริตแน่ๆ งั้นหรือครับ และผมคิดว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้นั้น บริสุทธิ์ยุติธรรมได้แน่ เพราะทุกฝ่ายร่วมกันตรวจสอบ

5. ท่านกล่าวหา (อีกแล้ว) ว่านายกยิ่งลักษณ์ ปล่อยให้มีการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม

คำแย้ง : ขออภัยเถิดครับ เวลาท่านดูทีวี ท่านหลับตาดูหรือปล่าว หรือว่าท่านอุดหูเวลาฟังวิทยุ ใครตีใครกันครับ ผมเห็นแต่ม็อบตีตำรวจ ผมเห็นมีแต่การปิดถนน มีการตัดน้ำตัดไฟ และตอนนี้ชักมากไปแล้วถึงกลับปิดธนาคาร ( ในประเทศที่ ฯพณฯ.เคยเรียนหนังสืออยู่ กรณีบุกปิดธนาคารรับรองโดนยิงแน่นอน) ผมคิดว่าพวกท่านนั่นแหละจุดชนวนเริ่มใช้ความรุนแรง

อ้อ อีกข้อนะครับ ท่านนายกยิ่งลักษณ์ ปฏิบัติตามหลักสากลในการใช้กำลังและอาวุธของเจ้าหน้าที่รัฐในการยุติการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงการดำเนินการของ ศอ.รส. นั้นก็เป็นไปตามหลักสากล พยายามหลีกเลี่ยงปะทะและลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้มากที่สุด

6. ท่านนายกอภิสิทธิ์ เตือนท่านนายกยิ่งลักษณ์ว่า อย่าฟังท่านนายกทักษิณ ความเห็นของผมนะครับ พี่น้องเขาจะพูดคุยถึงสารทุกข์สุขดิบกัน มันเรื่องอะไรของท่าน แต่กรณีการว่าราชการแผ่นดินนั้น รัฐบาลชุดนี้ก็ทำกันใน ครม.ตลอดจนการประชุมคณะกรรมการต่างๆ ตามธรรมเนียมประเพณีที่ถือปฎิบัติกันมาและ ครม.ทุกคนก็มีส่วนรับผิดชอบตามอำนาจหน้าที่ของตน

7. สุดท้ายซึ่งท่านนายกอภิสิทธิ์ ไม่ได้กล่าวไว้ใน โซเชียลมีเดีย แต่หากท่านไม่โกรธ ผมอยากขอแนะนำสักข้อเถอะครับ ฯพณฯ พูดถึงการปราบปรามทำร้ายประชาชนที่มาประท้วง จนถึงกับล้มตายตามข้างถนนอะไรปานนั้น ผมคิดว่าท่านน่าจะไม่อยู่ในสถานะที่จะไปแนะนำใครเลยนะครับ เป็นที่รู้กันว่าท่านเป็นผู้ที่มีความจดจำที่ดียิ่ง

ฯพณฯ อภิสิทธิ์ คงจำได้น่ะครับว่า มีประชาชนและเจ้าหน้าที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์การสลายการชุมนุมในปี 2553 (เม.ย.และพ.ค.53) เกือบ 100 ราย ซึ่งในขณะนั้น ฯพณฯ เป็น นายกรัฐมนตรี โดยมีคุณสุเทพ เป็นรองนายก และผอ.ศอฉ. และคดีนี้ก็เกี่ยวกับท่านด้วยนะครับ ไปพูดเรื่องอื่นเถอะครับ"