ผบ.ตร.ลงนามออกประกาศศรส.ห้ามใช้สถานที่13แห่ง

ผบ.ตร.ลงนามออกประกาศศรส.ห้ามใช้สถานที่13แห่ง

ผบ.ตร.ลงนามออกประกาศศรส.ห้ามใช้สถานที่13แห่ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามออกประกาศ ศรส. ห้ามใช้อาคาร หรือเข้าไปในสถานที่ 13 แห่ง

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามออกประกาศศูนย์รักษาความสงบ เรื่อง ห้ามใช้อาคาร หรือเข้าไปในสถานที่ 13 แห่ง และห้ามบุคคลที่มีพฤติการณ์ยั่วยุ ปั่นป่วน ต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ใช้เส้นทางคมนาคม หรือการใช้ยานพาหนะ 26 เส้นทาง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่การชุมนุมทั้ง 7 เวที และพื้นที่ใกล้เคียง โดยพื้นที่ ที่ห้ามเข้า 13 แห่งได้แก่ (1) ทําเนียบรัฐบาล (2) รัฐสภา (3) กระทรวงมหาดไทย (4) กระทรวงพลังงาน (ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ ถนนวิภาวดีรังสิต) (5) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ (6) บริษัท กสท โทรคมนาคม จํากัด (มหาชน) สํานักงานใหญ่ (แจ้งวัฒนะ)(7) บริษัท ทีโอที จํากัด (มหาชน)(แจ้งวัฒนะ) (8) สถานีดาวเทียมไทยคม จังหวัดนนทบุรี (9) สถานีให้บริการภาคพื้นดินไทยคม ลาดหลุมแก้ว (10) บริษัท กสท โทรคมนาคม จํากัด (มหาชน) ส่วนบริการอินเทอร์เน็ต ฝ่ายสื่อสารข้อมูล (บางรัก) (11) วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (12) สโมสรตํารวจ (13) ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานของรัฐอื่นรวมถึงศาล และองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ

นอกจากนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ ออกประกาศ ศรส. ฉบับที่ 2/2557 เรื่อง ห้ามนําอาวุธออกนอกเคหสถาน เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงออกประกาศกําหนด ดังนี้

ข้อ 1 ห้ามนําอาวุธออกนอกเคหสถานภายในเขตพื้นที่ ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง

ข้อ 2 ห้ามบุคคลหรือกลุ่มบุคคลนําอาวุธ สิ่งเทียมอาวุธ เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด สิ่งใดที่อาจนํามาใช้ได้อย่างอาวุธ เช่น หนังสติ๊ก ลูกเหล็ก ท่อนเหล็ก เครื่องชอร์ตไฟฟ้า ดอกไม้เพลิง หรือสิ่งอื่นใดในทํานองเดียวกันที่สามารถดัดแปลงเป็นอาวุธอันอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ของบุคคลใด รวมถึงเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน หรือของทางราชการ เข้าไปในพื้นที่ ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง

ข้อ 3 ให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ชั้นสัญญาบัตร หรือเทียบเท่า เป็นผู้ดําเนินการตามประกาศนี้ โดยประกาศกําหนดนี้ให้ใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม เป็นต้นไป

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook