ศรส.แถลงกำหนดขอคืนพื้นที่เริ่ม 27-30 ม.ค. ย้ำไม่ใช้ความรุนแรง
บช.ปส. 26 ม.ค. - ศรส.แถลงกำหนดเวลาและสถานที่ขอคืนพื้นที่ราชการ เริ่ม 27-30 ม.ค. ย้ำไม่ใช้ความรุนแรง และไม่ได้เป็นการสลายการชุมนุม
ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แถลงกำหนดการเข้าไปขอเจรจาคืนสถานที่ราชการในส่วนที่ส่งผลกระทบต่อการบริการประชาชน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (27 มค.) เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป โดยคณะผู้เจรจาประกอบด้วยตำรวจ ทหาร และผู้บริหาร ข้าราชการระดับสูงของหน่วยงาราชการที่ได้รับผลกระทบ และกำหนดกรอบเวลาการเจรจา 24 ชั่วโมง
สำหรับผลกระทบที่เกี่ยวข้องด้านบริการประชาชนของกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ที่เห็นได้ชัดคือเรื่องการทำหนังสือเดินทาง ซึ่งขณะนี้ยอดคงค้างทำหนังสือเดินทางหลายหมื่นเล่ม แม้จะแก้ปัญหาด้วยการขยายเวลาการปฏิบัติงานแล้วก็ตาม เนื่องจากระบบหลักที่ผลิตหนังสือเดินทางได้วันละ 6,500 เล่มไม่สามารถใช้งานได้ จึงต้องใช้ระบบรองที่ผลิตได้เพียงวันละ 2,500 เล่ม รวมถึงปัญหาการเชื่อมข้อมูลของประชาชนที่อยู่ในต่างจังหวัดและต่างประเทศ
ด้านกระทรวงยุติธรรมเกิดผลกระทบทั้งการดำเนินคดีของศาล ที่บางคดีไม่สามารถดำเนินการตามอายุความได้ คดีแพ่งที่เกี่ยวข้องกับการยึดและอายัติทรัพย์ การคุ้มครองสิทธิ และเงินช่วยเหลือคดีอาญา ซึ่งล้วนแต่ทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชนทั่วไป อีกทั้งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ แจ้งวัฒนะ อาคารบี ที่ไม่สามารถออกรายงานการพิสูจน์ได้
สำหรับตารางเวลาการขอเจรจาคืนสถานที่ราชการในวันจันทร์ที่ 27 ม.ค. เวลา 10.00 น เจรจาขอเปิดหน่วยงานราชการบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ ทั้งกระทรวงยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมการกงสุล และองค์กรด้านการสื่อสาร เวลา 14.00 น. กลุ่มหน่วยงานราชการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน
วันอังคารที่ 28 ม.ค. เวลา 10.00 น. ขอเปิดพี้นที่หน่วยงานราชการซอยอารีย์ ถนนพหลโยธิน อาทิ กระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ และกรมประชาสัมพันธ์
วันพุธที่ 29 ม.ค. เวลา 10.00 น.หน่วยงานราชการบริเวณตรงข้าม รพ.รามาธิบดี อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และวันพฤหัสบดีที่ 30 ม.ค. บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนิน
อย่างไรก็ตาม การแถลงการณ์ในนามศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย (ศรส.) ยืนยันการเจรจาขอเปิดสถานที่ราชการดังกล่าวจะไม่ใช้กำลังและความรุนแรง และไม่ใช่การสลายการชุมนุม แต่ขอความร่วมมือเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก -สำนักข่าวไทย