No vote กับ Vote no ผลต่างกันยังไง!!
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ค สมชัย ศรีสุทธิยากร วันนี้ (30 มกราคม 2557) อธิบายถึงผลต่างของ No Voteและ Vote No ซึ่งมีข้อความดังนี้
มีคนถามมาเยอะ ว่า No vote กับ Vote no มีผลต่างกันยังไง
1. ไม่ไปใช้สิทธิ์ No vote มีผลทำให้สถิติการใช้สิทธิ์ของไทยต่ำลงจนประจักษ์ต่อชาวโลกและบันทึกในประวัติศาสตร์ไทยให้อับอายเล่น แต่ไม่มีผลต่อการทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ แม้จะมีคนไปใช้สิทธิ์ไม่ถึง 24 ล้านคนก็ไม่เกี่ยว และไม่ชัดเจนว่า คุณตื่นตัวทางการเมืองจนอยากต่อต้านการการเลือกตั้ง หรือ คุณนอนดึกมาตื่นบ่าย แต่งตัวไม่ทันเลยไม่ไปใช้สิทธิ์
คุณจะไม่เสียสิทธิ์ทางการเมือง ในกรณีนี้ หากคุณไปแจ้งเหตุของการไม่ไปใช้สิทธิ์ต่อเขตหรืออำเภอ ภายใน 7 วัน หลังเลือกตั้ง (พยายามแจ้งเหตุที่เหมาะสมหน่อย อย่าไปบอกว่า ตื่นสาย เป็นต้น)
2. ไปใช้สิทธิ์ แต่ กา ไม่ประสงค์ใช้สิทธิ์ Vote no
บัตร สส.เขต : จะมีผลเฉพาะเขตที่มีผู้สมัครคนเดียว ถ้าคะแนน Vote no มากกว่าคะแนนผู้สมัคร แต่พอเลือกซ้ำถึงครั้งที่สาม เกณฑ์นี้จะหายไป
บัตร สส.บัญชีรายชื่อ : กา Vote no เท่าไหร่ ก็ไม่มีผลอะไร แม้จะมีมากกว่าคะแนนทุกพรรคก็ตาม คงแค่ฮือฮาว่า พรรคชื่อ Vote no มาแรงกว่าพรรคใหญ่
ตกลง จะ Vote หรือ No vote หรือ Vote no ดี ตัดสินใจกันเองครับ
นอกจากนี้นายสมชัย ยังโพสต์เรื่องที่เรียนให้นายกรัฐมนตรีทราบในวันที่ประชุมกับ นายกรัฐมนตรี ด้วย โดยมีข้อความดังนี้
วันที่ประชุมกับ นายกรัฐมนตรี ได้กราบเรียนให้ท่านทราบ ดังนี้
ประเด็นผลที่เกิดขึ้น หลังการเลือกตั้ง
1. 16 เขตที่มีผู้สมัครรายเดียว อาจมีบางเขตผู้สมัครอาจได้คะแนนน้อยกว่า ร้อยละ 20 ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง หรือน้อยกว่า vote no ในกรณีนี้ ต้องจัดเลือกตั้งใหม่ ทำให้ ได้ สส.ช้าไปประมาณ 1 เดือน หรือ เดือนครึ่ง แต่อย่างไรก็จบ เพราะในการเลือกใหม่รอบที่สาม ได้คะแนนเท่าไหร่ ก็ได้เป็น สส.
2. 28 เขต ที่ไม่มีผู้สมัคร ทำให้เปิดสภาไม่ได้ เพราะ มีสมาชิกขาดไปเิน 25 คน ปัญหาจะถูกแก้ไขได้ในเวลา 2-3 เดือน หากมีการเปิดรับ และ มีผู้สมัครได้ 3 เขตขึ้นไปก็จบ กระบวนการดังกล่าว สามารถแก้ปัญหาได้ในช่วงเวลา 2-3 เดือน หลังจาก 2 ก.พ.
3. สส.บัญชีรายชื่อ 125 คน จะยังไม่สามารถประกาศชื่อ สส.ได้ เนื่องจาก ต้องรอการนับคะแนนจากทุกหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งมีประมาณ 99,000 หน่วย ในกรณีนี้คาดว่าจะมีหน่วยเลือกตั้งจำนวนมาก เป็นหมื่นหน่วยที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้ง และต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ คาดว่าภายใต้สถานการณ์นี้ อาจต้องใช้เวลา 4-6 เดือน หรือมากกว่านั้น
4. สส.เขต 375 คน จะไม่สามารถประกาศได้แม้แต่รายเดียว เนื่องจากการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต ในวันที่ 26 ม.ค. มีผู้ที่ไม่สามารถมาใช้สิทธิ์ได้ประมาณ 2 ล้านคน (ผู้ลงทะเบียนนอกเขต 2.1 ล้าน มาใช้สิทธิ์ 1 แสน) ในกรณีนี้ จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งนอกเขตใหม่ ใน 83 เขต (กำหนดเป็น 23 กพ.) และ สามารถนับคะแนนได้เมื่อคะแนนไปถึงแต่ละหน่วยเลือกตั้งแล้ว คาดว่าภายใต้สถานการณ์นี้ อาจต้องใช้เวลา 3-4 เดือน หรือมากกว่านั้น จึงจะได้ สส.จำนวนหนึ่ง แต่หากจะให้ได้เกณฑ์ ร้อยละ 95 อาจใช้เวลา 4-6 เดือน หรือมากกว่านั้น
5. หลังจากการเลือกตั้ง 2 ก.พ. จะมีผู้ฟ้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะทันที ด้วยสาเหตุที่หยิบยกขึ้นมามากมาย เช่น การเลือกตั้งทั่วไปจะต้องทำในวันเดียว ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งหมายความว่า แนวโน้มที่เงิน 3,800 ล้าน จะสูญเปล่ามีสูงยิ่ง
6. การเผชิญหน้าของคนในชาติ ที่ฝ่ายหนึ่งสนับสนุนการเลือกตั้ง และอีกฝ่ายหนึ่งคัดค้านการเลือกตั้ง จะไม่อยู่ในกรอบของกฎหมายและสันติวิธีอีกต่อไป การทำผิดกฎหมายเช่น การยึดอุปกรณ์ ยึดบัตรเลือกตั้งทั้งจังหวัด การขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของกกต.ในระดับจังหวัด เขตและหน่วยเลือกตั้ง ความรุนแรงจะเกิดขึ้น นับแต่ การทำร้ายและตอบโต้ซึ่งกันและกัน การใช้อาวุธสงคราม การบาดเจ็บ เสียชีวิตจะเกิดขึ้น และมีแนวโน้มการเกิดเหตุจราจลในวงกว้างหลายจังหวัดทั่วประเทศ
ท่านนายกรัฐมนตรียิ้ม ให้กำลังใจ กกต. และบอกว่า ต้องเดินหน้าเลือกตั้งเพื่อรักษาประชาธิปไตย