กรมชลเตือนนาปรังปลูกเพิ่มถึง2เท่าน้ำไม่เพียงพอ

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน เผย น้ำทำนาขาดแคลน หลังมีการทำนาปรังเพิ่มถึง 2 เท่า

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุน ส่งไปสนับสนุนการใช้น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ล่าสุด (28 ม.ค. 57) มีปริมาณน้ำรวมกัน จำนวน 13,245 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 53 ของความจุอ่างฯ รวมกันทั้งหมด มีปริมาณน้ำที่สามารถนำมาใช้การได้จำนวนทั้งสิ้น 6,549 ล้านลูกบาศก์เมตร

ผลการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ทั้งในเขตและนอกเขตพื้นที่ชลประทานของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุด (ณ  23 ม.ค. 57) พบว่ามีการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งไปแล้วกว่า 8.29 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 163 ของแผนทั้งหมด (แผนกำหนดไว้ 5.09 ล้านไร่) แยกเป็นพื้นที่ทำนาปรัง 8.03 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 169 ของแผน (แผนกำหนดไว้ 4.74 ล้านไร่) และพืชไร่-พืชผัก 0.26 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 74 ของแผน (แผนกำหนดไว้ 0.35 ล้านไร่)

อนึ่ง แม้จะมีการรณรงค์ให้งดทำนาปรังอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่ชลประทานของลุ่มน้ำเจ้าพระย าแต่ยังพบว่ามีพื้นที่ทำนาปรังเพิ่มขึ้น จนขณะนี้เกินแผนที่ได้กำหนดไว้ไปแล้วเกือบจะ 2 เท่า ซึ่งหากพื้นที่ทำนาปรังยังคงเพิ่มขึ้นเช่นนี้ โอกาสที่จะเสี่ยงต่อปัญหาการขาดแคลนน้ำในอนาคตย่อมเกิดขึ้นได้ จึงขอย้ำให้เกษตรกรให้ความร่วมมือในการงดทำนาปรังอย่างต่อเนื่องด้วย เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดนี้ เพียงพอใช้อย่างไม่ขาดแคลน