′เทือก′ แจงซื้อที่ดินลูกชายดำเนินการตั้งแต่ก่อนจัดม็อบ-เผยหวังช่วยชาวนา 10 ล้าน

′เทือก′ แจงซื้อที่ดินลูกชายดำเนินการตั้งแต่ก่อนจัดม็อบ-เผยหวังช่วยชาวนา 10 ล้าน

′เทือก′ แจงซื้อที่ดินลูกชายดำเนินการตั้งแต่ก่อนจัดม็อบ-เผยหวังช่วยชาวนา 10 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปสส. กล่าวปราศรัยว่า วันนี้ได้ระดมทุนสำหรับผู้ที่จะร่วมช่วยชาวนา วันนี้เดินพิเศษกว่าทุกครั้ง และขอเรียนว่าตั้งแต่ได้นำมวลมหาประชาชนเดินขบวนในกรุงเทพฯ วันนี้เป็นวันที่ได้รับเงินมากที่สุด โดยวันนี้เก็บได้อีก 12 ถุงและยังมีอีก 2 กระสอบ ตนตั้งใจที่จะเดินขบวนเพื่อแสดงเจตนารมณ์ของพวกเราต่อต้านระบอบทักษิณ ขับไล่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และจะรวบรวมเงินเพื่อเป็นทุนสำหรับการต่อสู้ของชาวนา ซึ่งจะเดินอีกในวันจันทร์นี้ (10 ก.พ.)

ตนเชื่อว่าน่าจะระดมทุนได้ 10 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย ส่วนเศษของสิบล้านมีเท่าไหร่ ก็จะเป็นค่ารถ ค่าอาหาร ของพี่น้องชาวนาทั้งหลายที่ออกจากบ้านมาต่อสู้ ซึ่งแน่นอนต้องมีค่าใช้จ่าย ตนตั้งเวทีมาสามเดือนกว่าทราบดีว่าต้องใช้เงินมาก แล้วพี่น้องชาวนาก็ต้องใช้เงิน แล้วยังมีหนี้สินอีก ฉะนั้น ภาพของการต่อสู้ของชาวนาจึงน่าสงสารมาก แต่วันนี้ตนเห็นด้วยตาตัวเองเลยว่าพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ได้แสดงความรักและห่วงใยต่อชาวนาที่ถูกรัฐบาลเบี้ยวค่าข้าว โดยพี่น้องประชาชนได้มีการเตรียมตัวอย่างดี มีการไปรวบรวมเงินมา และจัดรอตนเป็นการเฉพาะ ใส่ซองมาแล้วมีการเขียนหน้าซองว่าเป็นการช่วยชาวนาโดยเฉพาะ เช่น "สิ้นชาวนาก็สิ้นชาติ" "อย่าปล่อยให้ชาวนาสู้อย่างโดดเดี่ยว"

ตนเห็นว่าวันนี้เกิดปรากฏการณ์ที่พิเศษสุด พี่น้องคนไทยไม่ว่าสาขาอาชีพอะไร ก็เป็นห่วงเป็นใยเอื้ออาทรกัน พี่น้องชาวกรุงเทพฯ ได้แสดงหัวใจให้คนเห็นว่าคนกรุงเทพฯ ไม่ว่าอาชีพอะไร รู้สึกเจ็บปวดกับความทุกข์ของชาวนาซึ่งสุดยอดมาก พวกท่านทำให้ชาวนามีกำลังใจอย่างยิ่ง ชาวนลุกฮือมาทั่วประเทศนั้น พวกเขาไม่ต้องการให้เป็นเรื่องการเมือง ซึ่งตนยืนยันว่าระวังมาก ถึงแม้เห็นใจชาวนาแต่ก็ดูอยู่ห่าง จนกระทั่งเห็นพี่น้องชาวนาออกมาพูดออกทีวีชัดเจนว่าแม้แต่เงินที่จะไปทวงเงินค่าข้าวยังไม่มี ทำให้ตนเห็นว่าจำเป็นต้องหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ชาวนา

รัฐบาลเป็นหนี้ชาวนา 130,000 ล้าน แล้วก็เอาข้าวไปขายไปกินกัน แต่กลับไม่ยอมเอาเงินให้ชาวนา และก็คิดจะไปกู้เงินมาใช้คืนชาวนา แต่ปรากฏว่าไม่มีใครยอมให้กู้ คืนธนาคารไหนให้กู้ประชาชนก็จะแห่กันไปถอนหมด ธนาคารจึงไม่ยอมให้กู้อย่างไรเล่า แล้วยังมาบอกว่ามีข้าว 18 ล้านตัน ซึ่งถ้าเอาไปขายได้เงินคืนชาวนาแน่นอน แต่กลับไม่ยอมเอาไปขาย ซึ่งเชื่อว่าเรื่องนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังแน่นอน

ตนแนะนำว่าให้ชาวนา ใช้เงิน 10 ล้านนั้นเป็นค่าดำเนินคดีฟ้องศาล บอกว่ารัฐบาลมีความผิดทางแพ่ง เพราะว่ามีสัญญาการซื้อขายข้าวแล้วเบี้ยวสัญญาถือว่ามีความผิดทางละเมิดแล้ว ตรงนี้มีการเรียกค่าเสียหายได้ และถ้าพี่น้องชาวนาฟ้อง นอกจากจะได้ค่าข้าวแล้วยังมีค่าดอกเบี้ยตลอดเวลาที่ผ่านมาที่เบี้ยวเงินด้วย และถ้าคิดดีๆ ไม่ใช่ความผิดเฉพาะทางแพ่งอาจจะผิดอาญาฐานฉ้อโกงประชาชนอีกต่างหาก ฉะนั้น ถ้าพี่น้องชาวนารวมตัวกันจะไปฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ กับพวก ซึ่งตอนนี้พวกตนได้หาทุนในการฟ้องร้องให้กับชาวนาแล้ว เมื่อเราชนะในการต่อสู้ก็จะต้องอายัดทรัพย์สิน น.ส.ยิ่งลักษณ์กับพวกหมดเลย

เราคิดว่าเงินทองที่เราช่วยกันเรี่ยไร บริจาคกันด้วยหัวใจจะเป็นกองทุนที่ทำให้พี่น้องที่เป็นชาวนา จะได้ใช้เป็นทุนรอนในการต่อสู้ เงินมันมากตั้ง 130,000 ล้าน พวกตนไม่ได้รวยขนาดนั้น แต่พวกที่โกงกินนั้นมีทรัพย์สินมากกว่าซึ่งถ้าอายัดมาเราจะได้เงินคืนให้ชาวนาแน่นอน

มีการปล่อยข่าวเขียนข่าวหาว่า นายแทน เทือกสุบรรณ ลูกชายตนเอาเงินบริจาคไปซื้อที่ดิน ตนก็อยากจะบอกว่าพวกตนไม่ได้หากินกับความทุกข์ของประชาชน ตนได้ถามกับลูกชายแล้ว ซึ่งเขาชี้แจงว่าได้ทำสัญญาซื้อขายตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ตั้งแต่ก่อนที่ตนจะมาร่วมม็อบเสียอีก และจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็ค ซึ่งมีที่ไปที่มา ไม่ใช่จ่ายเป็นเช็คเงินสดให้เจ้าของที่ดิน เพียงแต่ว่าเจ้าของที่ดินเพิ่งสะดวกที่จะทำการโอนให้ ที่สำคัญคือเป็นเรื่องของนายแทน ซึ่งไม่ใช่กรรมการ กปปส. ไม่ได้มารับบริจาคเงิน เงินที่บริจาคมาทุกวันมีคณะกรรมการของแต่ละเวทีบริหารจัดการกันไป ตนนั้นแค่ฟังรายงานเท่านั้น เพื่อเติมเงินในส่วนที่ขาดหายไปเท่านั้น ที่ทำมานั้นเพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน ซึ่งคนก็รู้กันหมด เงินบริจาคมันไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่าย แต่เราก็พอใจ เพราะเราตั้งใจแต่ต้นว่าเทหมดหน้าตัก เพื่อไล่ทรราชให้พ้นไปเสียที

กรณีหลวงปู่พุทธอิสระ เราให้อิสระท่านจริงๆ ท่านมีลูกศิษย์ร่วมกันในการต่อสู้ โดยมีแนวคิดเดียวกันคือต่อต้านทรราช ขจัดระบอบทักษิณ และร่วมปฏิรูปประเทศ

ส่วนกรณีที่ห้ามแกนนำ กปปส.ออกนอกประเทศ บอกเลยว่าเมินเสียเถิด แต่ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่จะหนีไปนอกประเทศ และไม่มีพวกเรากลัวเลย เราทำอารยะขัดขืน แล้วรัฐบาลก็ทำอะไรกับเราไม่ได้ แต่ประกาศออกนอกประเทศนั้นเพราะเราไม่คิดไปอยู่แล้ว ส่วนนายสาธิต เซกัล ก็ยืนยันว่าไม่กลัวเช่นกัน เพราถ้าเราชนะนายสาธิต ก็ยังอยู่ประเทศนี้ต่อไปได้เช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook