ผวาแมวตายหมู่ 30 ตัว สธ.คาดป่วย "ไข้หวัดแมว"
(8 ก.พ.) น.พ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีแมวตายกว่า 30 ตัว ที่หมู่บ้านที่ 1 และ 3 ต.วังแขม อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เป็นพื้นที่ที่เคยตรวจพบเชื้อไข้หวัดนกมาก่อนว่าได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 8 จ.พิษณุโลก ลงพื้นที่ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์กำแพงเพชร เพื่อควบคุมป้องกันโรคที่หมู่บ้านที่พบแมวตาย อีกทั้ง ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ส่งซากแมวตรวจชันสูตรหาเชื้อ ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคเหนือตอนล่าง จ.พิษณุโลก ผลการตรวจเบื้องต้น ไม่พบเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า
ในบ้านที่พบแมวตายประชาชนควรทำความสะอาดพื้นบ้านด้วยผงซักฟอก รวมถึงทำลายอุปกรณ์ต่างๆ หลังใช้ โดยการให้ฝังหรือเผาทำลายทิ้ง หรือหากยังมีแมวตายเพิ่มให้กำจัดซากแมวโดยสามารถทำได้ 2 วิธี คือ ขุดหลุมฝังลึก 75-100 เซนติเมตร หรือใช้วิธีเผาทำลาย ซึ่งสิ่งสำคัญของการทำความสะอาดหรือกำจัดซากแมว ประชาชนควรจะสวมถุงมือยางหรือสวมถุงพลาสติก และสวมหน้ากากป้องกันโรค พร้อมทั้งเผาทำลายหรือฝังอุปกรณ์ทั้งหมดหลังจากใช้งานเสร็จเพื่อความปลอดภัย
ทั้งนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม.เฝ้าระวังอาการป่วยในคน โดยเฉพาะในบ้านที่มีแมวตาย ให้สังเกตอาการป่วยทุกวัน เป็นเวลา 3-4 สัปดาห์ หากพบว่า มีไข้ ไอ หอบ ให้ส่งตัวไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วย
ด้านสพญ.อภิรมย์ พวงหัตถ์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรคกล่าวว่า ลักษณะอาการของแมวน่าจะเกิดจากการติดเชื้อในกลุ่มพาร์โวไวรัส (Parvo Virus) ส่งผลทำให้เกิดโรคไข้หวัดแมว ซึ่งอาการของโรคนี้หลังจากได้รับเชื้อใน 2-7 วัน จะมีอาการท้องเสียอาเจียนสำหรับลูกแมวที่มีอาการรุนแรงอาจตายภายใน 7 วัน บางตัวมีอาการตาบอดจนถึงเป็นอัมพาต ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของแมว แต่อย่างไรก็ตามโรคนี้ไม่สามารถติดต่อสู่คนและสุนัขได้