กรมชลเผยน้ำเพาะปลูก2เขื่อนใหญ่เพียงพอ
รองอธิบดีกรมชล เผย ปริมาณน้ำในเขื่อนหลัก 2 แห่ง เพียงพอต่อการเพาะปลูกในหน้าแล้งนี้ แต่ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด
นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในส่วนสำคัญของลุ่มน้ำเจ้าพระยาทั้ง 2 แห่ง คือ เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ อยู่ในภาวะที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากมีปริมาณน้ำที่ใช้การได้รวมทั้ง 2 เขื่อน 5,100 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 18 ของปริมาณความจุรวม โดยจำเป็นต้องกักเก็บน้ำช่วงต้นฤดูฝน 3,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ใช้ในการเพาะปลูก และเตรียมแปลงในช่วงนาปี ต้นเดือนพฤษภาคม เนื่องจากคาดการณ์ว่า ฝนจะตกล่าช้ากว่าปกติ และขณะนี้มีน้ำใช้ในหน้าแล้งเพียง 2,100 ล้านลูกบาศก์เมตร น้อยกว่าแผนที่วางไว้ เนื่องจากมีการทำการเกษตรและปลูกข้าวนาปรังเกินแผนที่กำหนด
โดยกรมชลประทาน ได้ปรับแผนการระบายน้ำ จากเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ จากเดิม ต้องลดการระบายทั้ง 2 เขื่อน ในช่วงปลายเดือนเมษายน เพื่อช่วยเกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปรังรอบที่ 1 ให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ โดยขอความร่วมมือเกษตรกรชาวนาในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยางดการทำนาปรังในรอบที่ 2 อย่างเด็ดขาด เนื่องจาก จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ และการอุปโภค-บริโภค โดยยืนยันว่า หากไม่มีการนำไปใช้ในการเกษตร จะมีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภค-บริโภค ช่วงหน้าแล้งอย่างแน่นอน