สั่งไอโฟนได้ข้าวซอย! รวบสาวแสบลวงขายของผ่านเฟซบุ๊ก
ตำรวจแถลงจับสาว18 สุดแสบลวงขายไอโฟนราคาถูกผ่านเฟซบุ๊ก แต่กลับส่งสินค้าอื่นให้กับลูกค้าแทน อาทิ ครีมนวดผม ข้าวซอยตัด พบมีผู้เสียหายกว่า 30 ราย
วันนี้ (17 ก.พ.) ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าวผลการจับกุมตัวสาวแสบหลอกขายโทรศัพท์มือถือทางอินเตอร์เน็ต แล้วส่งสินค้าอื่นให้กับลูกค้า โดยจับกุมตัวน.ส.เสาวลักษณ์ คำคุณ อายุ 18 ปี ชาวอ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ตามหมายศาลของหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ.53/2557 โดยกล่าวหาว่า นำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ซื้อข้อมูลคอมพิวเตอร์ ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ประชาชน และฉ้อโกง ซึ่งจับกุมตัวได้่ที่ร้านอินเตอร์เน็ต แห่งหนึ่งในจ.เชียงใหม่
สำหรับพฤติการณ์ของ น.ส.เสาวลักษณ์ เมื่อประมาณเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายหายรายเจ้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกลวงผ่านอินเตอร์เน็ต ผ่านโปรแกรมเฟสบุ๊กใช้ชื่อ Mo May ว่า มีโทรศัพท์ไอโฟนขายในราคาถูก โดยผู้เสียหายต้องโอนเงินค่าโทรศัพท์ให้ก่อนครึ่งหนึ่งของราคาซื้อ
จากนั้นคนร้ายได้บรรจุสินค้าอื่นใส่กล่องพัสดุไปรษณีย์ส่งไปให้ผู้เสียหายทางไปรษณีย์ แล้วถ่ายรูปสลิปใบเสร็จยืนยันการส่งของทางไปรษณีย์ให้ผู้เสียหายดูผ่านระบบเฟสบุ๊ก ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าผู้ต้องหาส่งโทรศัพท์มาให้แล้ว ผู้เสียหายจึงโอนเงินค่าสินค้าที่เหลือไปให้กับผู้ต้องหา จนเมื่อได้รับพัสดุไปรษณีย์ จึงทราบความจริงว่า สินค้าที่คนร้ายส่งมานั้นไม่ใช่โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟนที่สั่งไป แต่กลายเป็นสินค้าอื่นเช่น ข้าวซอยตัด ครีมนวดผม แก้วน้ำ จากนั้นผู้ต้องหาก็จะทำการบล็อกการติดต่อทางเฟสบุ๊กของผู้เสียหายรายนั้น เพื่อไม่ให้ติดต่อได้อีก
เมื่อผู้เสียหายไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับพบบัญชีธนาคารที่คนร้ายนำมาใช้หลวงลวงผู้เสียหายนั้น คนร้ายได้เปิดบัญชีโดยการเอาบัตรประชาชนของบุคคลอื่นไปแอบเปิดบัญชีธนาคารเพื่อปกปิดชื่อของตัวเองในการหลอกลวงผู้เสียหาย แต่จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคารสามารถบันทึกภาพผู้ต้องหาไว้ได้ ขณะเข้ามาเปิดบัญชีธนาคาร ทำให้ทราบว่าคนร้ายคือน.ส.เสาวลักษณ์ หรือครีม คำคุณ
อย่างไรก็ตามจากการตรวสอบมีผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายจากน.ส.เสาวลักษณ์กว่า 30 ราย และเงินที่ได้จากการหลอกเหยื่อก็จะนำมาเที่ยวกับเพื่อนๆ ซึ่งใช้จ่ายเงินวันละไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท