ทนายถาวรเล็งยื่นศาลอาญาขอเพิกถอนหมายจับ

ทนาย ถาวร เล็งยื่นศาลอาญา ขอเพิกถอนหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังศาลแพ่ง สั่งห้าม ศรส.บังคับใช้ข้อกำหนด

นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความของ นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. กล่าวภายหลังศาลแพ่ง มีคำพิพากษาในคดี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า คำพิพากษาศาลแพ่ง เสียงข้างมาก ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลมีอำนาจในการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะเป็นอำนาจโดยเฉพาะของฝ่ายบริหาร แต่การบังคับใช้ โดยอาศัยผลของ ม.9, 11 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่สามารถบังคับใช้กับกลุ่มผู้ชุมนุมได้ เนื่องจากเป็นการออกมาชุมนุมและต่อสู้เพื่อเรียกร้องเมื่อรัฐบาลที่มีปัญหาคอร์รัปชั่น และการปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงการไม่ยอมรับคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ การแก้ไขร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม การทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ตามที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ดังนั้นการที่รัฐบาลมาประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา และข้อกำหนดมตรา 9, 11 นั้น นำมาดำเนินการไม่ได้โดยเฉพาะห้ามสลายการชุมนุม

ทั้งนี้ มีผู้พิพากษาเสียงข้างน้อย 2 เสียง จาก 5 เสียง มีความเห็นแย้งว่า ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก็ควรเพิกถอนไป เท่ากับว่าคำพิพากษาในวันนี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นหมั้น เพียงให้อำนาจฝ่ายบริหารออกประกาศได้ แต่ไม่สามารถใช้กับผู้ชุมนุมได้ กรณีดังกล่าวชี้ว่าการใช้อำนาจบริหารยังมีการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจจากฝ่ายตุลาการอยู่ ซึ่งผลคำพิพากษาวันนี้จะนำไปประกอบกับคำร้องที่เคยยื่นต่อศาลแพ่ง กรณีที่รัฐบาลฝ่าฝืนอำนาจศาล ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าพื้นที่สลายการชุมนุมที่บริเวณสะพานผ่านฟ้า เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทีมทนายความจะยื่นคำร้องขอเพิกถอนหมายจับ ผู้ต้องหาที่ถูกกล่าวหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อศาลอาญาต่อไป