ตำรวจเตะระเบิดยังสาหัส เมียเผยรักเพื่อนฝูง
(20 ก.พ.) จากกรณีเหตุปะทะระหว่าขอคืนพื้นที่ชุมนุม ที่แยกผ่านฟ้าลีลาศ เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่ง ด.ต.ธีระเดช เล็กภู่ อายุ 44 ปี ผบ.หมู่ ป.สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี พยายามจะใช้เท้าเตะระเบิดที่ถูกขว้างมาในกลุ่มตำรวจ เพื่อช่วยชีวิตเพื่อนตำรวจด้วยกัน จนทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ขาทั้งสองข้าง
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ เวลา 14.45 น. ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตำรวจ ได้เคลื่อนย้าย ด.ต.ธีระเดช ออกจากโรงพยาบาลวชิรพยาบาลไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ
นางจีรภา เล็กภู่ ภรรยา เปิดเผยว่า เท่าที่ได้พูดคุยกับสามีถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามภาพข่าวก็ทราบว่า หลังจากสามีเรียกเพื่อนรุ่นน้องให้มานั่งข้างๆ ตัวเองแล้ว ตำรวจรุ่นน้องคนดังกล่าวไม่เห็นระเบิดที่ถูกปามากระทบโล่ วินาทีนั้นสามีก็ตัดสินใจลุกขึ้นเพื่อจะเตะระเบิดออกไป เพื่อช่วยชีวิตเพื่อนร่วมงานแต่เกิดระเบิดขึ้นเสียก่อน เหตุที่สามีตัดสินใจทำอย่างนั้น เพราะเป็นคนรักเพื่อนมาก อยู่กันมานานตนเองรู้ว่าสามีเป็นคนอย่างไร รักเพื่อนมากแค่ไหน รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะอาการของสามีตอนนี้ขาทั้งสองข้างอาการยังหนักอยู่และต้องระวังเรื่องแผลติดเชื้อ หากเลือกได้ไม่อยากให้สามีเป็นฮีโร่ อยากให้ขากลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมเท่านั้น
ด้าน น.ส.วรพิชชา เล็กภู่ ลูกสาววัย 17 ปี กล่าวว่า เรื่องที่มีคนชื่นชมพ่อของตนที่ลุกขึ้นมาเตะระเบิดเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนนั้น ก็รู้สึกดีแต่ไม่อยากให้พ่อต้องเจ็บแบบนี้เพราะดูแล้วมันทรมานมาก
ขณะที่ นพ.ชัยวัน เจริญโชคทวี แพทย์รพ.วชิรพยาบาล กล่าวว่า กระดูกขาทั้ง 2 ข้างของผู้ป่วยนั้นหักหลายท่อน แพทย์ต้องใช้เหล็กดามไว้ ซึ่งคาดว่าน่าจะต้องใช้เวลารักษาตัวนานหลายเดือน นอกจากนี้ยังมีบาดแผลที่แขนซ้ายเป็นรูอีกด้วย ขณะนี้ผู้ป่วยอาการดีขึ้น สามารถพูดคุยได้
ด้านพล.ต.ต.นพ.ณรงค์ศักดิ์ เสาวคนธ์ รองนายแพทย์ใหญ่รพ.ตำรวจ กล่าวว่า อาการของด.ต.ธีรเดช มาด้วยอาการกระดูกขาทั้งสองข้างแตกเบื้องต้นทางรพ.วชิระได้ทำการยึดกระดูกทั้งสองข้างรวมทั้งหัวแม่เท้าแตกละเอียดมาอย่างดี การดูแลในขั้นตอนต่อไปต้องระวังเรื่องการติดเชื้อ ส่วนจะกลับมาเดินได้ตามปกติหรือไม่ขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่อของกระดูกซึ่งเป็นเรื่องของอนาคตตอนนี้ยังยืนยันไม่ได้
ส่วนส.ต.ต.ศราวุฒิ ชัยปัญหา ผบ.หมู่ป.สภ.บางละมุง จว.ชลบุรีตอนนี้อาการหนักที่สุดโดนยิงที่ศีรษะทะลุท้ายทอย ตอนนี้อยู่ห้องไอซียูอาการยังน่าเป็นห่วง ไม่รู้สึกตัว ไม่ตอบสนองอยู่ได้ด้วยยากระตุ้นหัวใจและความดันต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง