เฉลิมพร้อมทำตามศาลแพ่งยื่นถามข้อห้ามบ่าย

เฉลิมพร้อมทำตามศาลแพ่งยื่นถามข้อห้ามบ่าย

เฉลิมพร้อมทำตามศาลแพ่งยื่นถามข้อห้ามบ่าย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

'ร.ต.อ.เฉลิม' เผย เร่งศึกษา หลังกรณีศาลแพ่ง มีคำสั่งคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่มีข้อห้ามเพิ่ม ย้ำ ศรส. ไม่เคยสลายการชุมนุม อ้างม็อบสุมอาวุธ

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ หรือ ศรส.
เปิดเผยว่า ส่วนตัวยังไม่ได้อ่านรายละเอียดคำสั่งศาลแพ่ง แต่ทราบว่าศาลยังอนุญาตให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้
แม้จะมีข้อห้ามไม่ให้ตำรวจสลายการชุมนุมก็ตาม ซึ่งต้องรอว่าฝ่ายกฎหมายของ ศรส. จะมีการยื่นอุทธรณ์คำสั่ง
ต่อศาลหรือไม่ แต่ในฐานะ ผู้อำนวยการ ศรส. จะยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อขอความรู้ว่า หาก
มีการซ่องสุมกำลัง อาวุธ บุกรุกสถานที่ราชการ ชุมนุมกีดขวางการจราจร และปิดลัอมบริษัทเอกชน จะเข้าข่าย
การชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ และตำรวจจะสามารถจับกุมดำเนินคดีได้หรือไม่ และ
การกระทำของตำรวจจะละเมิดคำสั่งศาลหรือไม่ ซึ่งหากศาลเห็นว่าตำรวจทำไม่ได้ ศรส .ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่ง พร้อมย้ำว่า ศรส. ไม่เคยมีความคิดในการสลายการชุมนุมอย่างเด็ดขาด

ขณะที่ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง หลังศาลมีคำสั่งออกมาแล้ว เนื่องจากเกรงว่าจะเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล

ส่วนการที่มีกลุ่ม กปปส. ไปปิดล้อมอาคารชินวัตร 3 วันนี้ ยอมรับว่า ไม่กล้าที่จะตัดสินใจส่งกำลังตำรวจเข้าไป
เนื่องจากไม่มั่นใจในข้อห้ามบางประการของศาลแพ่ง

 

'ภราดร'เผยเคารพคำสั่งศาลพร้อมปรับรูปแบบปฏิบัติการ

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ได้เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงกรณีคำตัดสินของศาลแพ่งที่มีคำสั่งห้าม 9 ข้อ ไม่ให้ทางศูนย์รักษาความสงบ หรือ ศรส. ปฏิบัติว่าในตอนนี้จะต้องรอคำสั่งศาลแพ่งที่ชัดเจน พร้อมน้อมรับมา แล้วนำเข้าคณะกรรมฝ่ายกฎหมาย เพื่อหาแนวทางในการปฏิบัติงานต่อไปว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร ซึ่งจะมีการประชุมร่วมกันในวันนี้ พร้อมยืนยันว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้อำนาจในการปฏิบัติการมากกว่า พ.ร.บ.มั่นคง ถึงแม้จะมีข้อจำกัดบ้างแต่ก็ยังมีอีกหลายข้อที่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งหลังจากนี้จะมีปรับการปฏิบัติการที่เน้นไปเฉพาะตัวบุคคล และผู้กระทำผิดซึ่งหน้ามากขึ้น ส่วนกรณีที่ กปปส. จะไปเดินทางไปปิดตึกชินวัตรนั้น ทาง ศรส.จะต้องมีการปรับยุทธวิธีในการดูแล เพราะจะเห็นว่า ขณะนี้ ทาง กปปส. ได้มีการปรับรูปแบบของการเคลื่อนตัวที่เน้นไปสู่เป้าหมายที่เจาะจงมากขึ้น ถือเป็นการไปละเมิดสิทธของผู้อื่น

ทั้งนี้ ในกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ทราบตัวผู้ที่ปาระเบิดที่สะพานผ่านฟ้านั้น ในขณะนี้เป็นแค่ข่าวสารชั้นต้น เป็นการตั้งข้อสังเกต ซึ่งกำลังสืบสภาพข้อเท็จจริง ต้องใช้เวลาอีกนิด และต้องร่วมกับข้อมูลนิติวิทยาศาสตร์ก่อนถึงจะปรากฏได้ชัดเจน

 

ศรส.ปรับคำสั่งรับมือม็อบกปปส.เน้นจับกุมแกนนำ

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะเลขาฯ ศรส. เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หลังจากนี้ ศรส.จะต้องรอคำสั่งศาลแพ่งอย่างเป็นทางการ มาศึกษาอย่างละเอียดเพื่อปรับคำสั่งในการทำงานให้สอดคล้องกับคำสั่งของศาลแพ่งต่อไป ยืนยันเคารพในคำสั่งของศาลอย่างเต็มที่ ส่วนการดำเนินการหลังจากนี้ ก็จะพยายามเปิดพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนต่อไป และติดตามจับกุมผู้ที่มีหมายจับ และผู้กระทำผิดซึ่งหน้ามากขึ้น และขอย้ำว่า ไม่คิดฝ่าฝืนสลายการชุมนุมแต่อย่างใด

พร้อมกันนี้ เลขาฯ ศรส. ยังกล่าวด้วยว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี ในขณะนี้เป็นมาตรการเข้มข้นสูงสุดแล้ว แต่อาจจะมีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ และมาตรการรับมือผู้ชุมนุมให้เข้มข้นมากขึ้น ในจุดที่ นายกรัฐมนตรี มีหมายที่จะเดินทางไปปฏิบัติราชการต่อไป หลังจากม็อบใช้ยุทธวิธีไล่ล่าประชิดตัวมากขึ้น

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook