'หม่อมอุ๋ย' เสนอนายกรัฐมนตรีลาออก
มรว.ปรีดิยาธรเสนอนายกฯ ลาออก รับผิดชอบโครงการจำนำข้าว พาประเทศไทยพ้นจากวิกฤต ขณะที่ทีดีอาร์ไอ วอนทุกสีเสื้อร่วมปฏิรูปประเทศ หวั่นเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะเลวร้ายเหมือนฟิลิปปินส์ หลังยุคปธน. มาร์กอส
ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวในงานเสวนาวิชาการครบรอบ 80 ปี สถาปนามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ "ปฏิรูปเศรษฐกิจ กู้ไทยพ้นวิกฤต" ว่า แนวทางที่จะให้ประเทศไทยพ้นวิกฤตวันนี้ คือนายกรัฐมนตรีต้องลาออก แล้วจะทำให้การปฏิรูปประเทศไทยทำได้อย่างยั่งยืน เพราะที่ผ่านมามีดารดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดจนเกิดความเสียหายต่อประเทศ โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งนอกเหนือจากนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้กำหนดนโยบายแล้ว ยังต้องคอยติดตามนโยบายด้วย ว่ามีความเสียหายมากน้อยแค่ไหน ซึ่งที่ผ่านมาหลายภาคส่วนก็เคยเตือนถึงความเสียหายที่จะกระทบต่อประเทศหลายต่อหลายครั้งแล้วว่า จะสูงหลักแสนล้านบาท
นอกจากนี้ยังส่งผลต่อตลาดข้าวของประเทศไทยที่สูญเสียตำแหน่งผู้นำส่งออกข้าว ซึ่งตั้งแต่ปี 2502-2553 ไทยเคยส่งออกเป็นอันดับ 1 มาโดยตลอด โดยปี 2553 ไทยยังส่งออกข้าวได้ถึง 11 ล้านตัน แต่ทันทีที่เปลี่ยนนโยบายเป็นจำนำข้าว ไทยต้องสูญเสียตำแหน่งผู้นำส่งออกข้าว ปี 2555 ส่งออกลดลงเหลือ 7 ล้านตัน ปี 2556 เหลือแค่ 6.7 ล้านตัน ซึ่งในปีนี้ก็ไม่รู้ว่าจะหดตัวเหลือเท่าใด เพราะแนวทางการระบายทำได้ลำบากยิ่งขึ้นจากคุณภาพข้าวที่ลดต่ำลง
ด้าน รศ.ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร ผู้อำนวยการวิจัยนโยบายเศรษฐกิจ รายสาขาด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมชนบท สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ ยอมรับว่าขณะนี้ไม้รู้ว่าทางออกของวิกฤตประเทศไทยจะเป็นอย่างไร แต่อยากเห็นคนทุกสีเสื้อร่วมกันปฏิรูปประเทศ เพื่ออนาคตของลูกหลาน เพราะหากยังดำเนินต่อไปในลักษณะ ที่ฝั่งการเมืองมีม็อบเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงอำนาจ และต่างฝ่ายต่างผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ประเทศไทยจะตกจะเวทีเศรษฐกิจโลก และจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจ ที่เลวร้ายยิ่งกว่าประเทศฟิลิปปินส์หลังยุคประธานาธิบดีมาร์กอส