ศาลออกหมายจับมือยิงสุทิน,บึ้มอนุสาวรีย์แล้ว
โฆษก สตช. แถลงคืบ ระเบิดบิ๊กซีราชดำริ พบมาจากประตูน้ำ ขณะศาลอนุมัติหมายจับ ยิงที่บางนาและระเบิดที่อนุสาวรีย์แล้ว ผบ.ตร. สั่ง ตั้งทีมคลี่คลาย คดียิงM79 เผย มี 2-3 กลุ่ม - แนวโน้มการก่อเหตุรุนแรงเพิ่มสูงขึ้น
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้า เหตุระเบิด บิ๊กซี ราชดำริ ส่งผลให้มีเด็กเสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก ว่า ผลการตรวจวิถีกระสุนจากผู้เชี่ยวชาญ พบว่า มาจากด้านบริเวณแยกประตูน้ำ จึงดำเนินการตรวจสอบอาคารสูง หาจุดที่ก่อเหตุและกล้องวงจรปิดภายในอาคารสูง เบื้องต้น สันนิษฐานได้ 6 จุด ประกอบด้วย 1. โรงแรมโนโวเทล 2. ห้างพาราเดียม 3. ห้างแพลทินัม 4. โรงแรมแกรนด์ไดมอน 5. ชุมชนหลังวัดปทุมวนาราม และ 6. ชุมชนหลังห้างบิ๊กซีราชดำริ ส่วนการสอบปากคำ ดำเนินการไปแล้ว 25 ปาก
ส่วนคดีเหตุคนร้ายยิง นายสุทิน ธราทิน บริเวณวัดศรีเอี่ยม ตำรวจได้ขอศาลออกหมายจับชายไทยไม่ทราบชื่อ ในข้อหาผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ แล้ว 1 ราย สำหรับความคืบหน้าเหตุระเบิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการตรวจพิสูจน์ยืนยันดีเอ็นเอจากหมวกและเสื้อของผู้ต้องสงสัยที่ปรากฏตามคลิปวิดีโอ ล่าสุด ศาลอาญา ได้อนุมัติออกหมายจับ นายกฤษกา ไชยแค อายุ 48 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี แล้ว และอยู่ระหว่างการเร่งรัดติดตามจับกุม
ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เพิ่มรางวัลนำจับอีก 200,000 บาท รวมกับที่ ผบช.น. ตั้งรางวัลนำจับก่อนหน้านี้ 500,000 เป็น 700,000 บาท อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพยานหลักฐาน เชื่อได้ว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนเดียว หรือกลุ่มเดียวกับเหตุระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง
ผบ.ตร.เผยตั้งทีมสางคดีเอ็ม79-แนวโน้มรุนแรงขึ้น
พลตำรวจตรีปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลง ความคืบหน้าคดีเหตุรุนแรงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม โดยระบุว่าตั้งแต่เริ่มต้นการชุมนุม เดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ มีแนวโน้มการก่อคดีเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งสิ้น 63 คดี ถึงแม้ว่าจะมีการตั้งจุดตรวจร่วมระหว่างตำรวจและทหารก็ตาม แต่คนร้ายยังคงก่อเหตุ โดยเลือกช่วงเวลาก่อนการตั้งด่านความมั่นคงคือ ตั้งแต่เวลา 18:00-21:00 น. ส่วนรูปแบบของการก่อเหตุ แบ่งเป็นการใช้อาวุธปืน วัตถุระเบิด ประทัดยักษ์ และอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคดีที่ใช้อาวุธปืนพก
ทั้งนี้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่าจากเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น รวมถึงมีการใช้ระเบิดชนิด M79 ถี่ขึ้นนั้น ล่าสุด พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงสั่งการให้ตั้งชุดพิเศษขึ้นมา เพื่อติดตามกลุ่มคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนยิงระเบิด M 79 โดยเฉพาะ เพื่อหาความเชื่ยมโยงทุกคดี ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือไม่ เบื้องต้นพบว่ามีประมาณ 2-3 กลุ่ม ที่ใช้อาวุธดังกล่าว พร้อมกันนี้ได้ กำชับให้ตำรวจดูแลป้องกันเหตุ เร่งหาพยานหลักฐาน ติดตามจับกุมคนร้ายและเน้นการให้บริการประชาชน
อย่างไรก็ตาม ตำรวจขอความร่วมมือกลุ่มผู้ชุมนุมในการให้เข้าตรวจสอบพื้นที่ เพื่อเก็บพยานหลักฐานและเร่งคลี่คลายคดีให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วด้วย
โฆษก สตช. แถลงสรุปคดีสำคัญทางการเมือง
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงสรุปความคืบหน้าเหตุรุนแรงต่าง ๆ อาทิ คดีเหตุปะทะที่บริเวณหน้า มหาวิทยาลัยรามคำแหง และสนามราชมังคลากีฬาสถาน ล่าสุด ศาลออกหมายจับแล้ว 8 ราย จับกุมคนร้ายได้ 4 ราย ที่เหลืออยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว คดีเหตุปะทะที่สนามกีฬาไทย - ญี่ปุ่น ดินแดง มีการชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต รวมทั้ง รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งมีความคืบหน้าไปพอสมควรแล้ว ส่วนเหตุการณ์ยิงระเบิด เอ็ม 79 เข้าใส่อาคารศาลอาญา พบว่า คนร้ายน่าจะยิงมาจากรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ที่วิ่งชะลอบริเวณถนนหน้าศาลอาญา ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานแฟนพันธ์แท้รถยนต์ดังกล่าวมาทำการตรวจสอบ ส่วนเหตุหน้าศาลแพ่ง มีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดรอบพื้นที่ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดเช่นกัน
ทั้งนี้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อไปว่า สำหรับส่วนเหตุปะทะที่แยกหลักสี่ ถนนแจ้งวัฒนะ ตำรวจ
ขอศาลออกหมายจับ 4 ราย ศาลยกคำร้อง 1 ราย ให้ไปรวบรวมพยานหลักฐานใหม่ ส่วน 3 ราย ศาลนัดฟัง
คำสั่งว่า จะอนุมัติออกหมายจับหรือไม่ ในวันที่ 11 มีนาคมนี้ ขณะที่เหตุปะทะแยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ พบว่า
กลุ่มผู้ชุมนุมในเหตุการณ์ได้เก็บปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุไป ทำให้ตำรวจต้องติดตามขอความร่วมมือในการ
นำส่ง เพื่อตรวจพิสูจน์ต่อไป ส่วนการสอบปากคำ มีการสอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์เรียบร้อยแล้ว