นายกฯย้ำไม่แยกปท.ขอผบ.ทบ.เป็นธรรมฟ้องแดง

นายกฯย้ำไม่แยกปท.ขอผบ.ทบ.เป็นธรรมฟ้องแดง

นายกฯย้ำไม่แยกปท.ขอผบ.ทบ.เป็นธรรมฟ้องแดง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี ย้ำ รัฐบาลไม่หนุนแบ่งแยกประเทศ ขอ ผบ.ทบ. ตรวจสอบเท่าเทียมทุกกลุ่ม ขณะที่ 'พ.อ.วินธัย' ลั่นยอมไม่ได้แบ่งแยกดินแดนแบบกายภาพ ด้าน ทภ.3 แจ้งความแดงเชียงใหม่ 'เพชรวรรต'โต้ไม่มีเจตนาแค่อยากปฏิรูปการเมืองใหม่

ภายหลังเดินตรวจแถวตำรวจปราบจลาจล ในสนามบุญยะจินดา สโมสรตำรวจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า รัฐบาลไม่สนับสนุนให้มีการแบ่งแยกดินแดน และประเทศไทย ต้องเป็นหนึ่งเดียว นี่คือภารกิจหลัก แต่ควรให้มีการสืบสวนในข้อเท็จจริงก่อนว่า มีกระบวนการอย่างนี้หรือไม่ เพราะที่สำคัญสิ่งที่จะแก้ได้ดีที่สุด คือ ความยุติธรรม และความเสมอภาคเท่าเทียมกัน ไม่ให้คนมีความรู้สึกแตกต่าง ขณะยืนยันด้วยว่า ไม่สนับสนุนกลุ่ม สปป.ล้านนา แบ่งแยกดินแดน แม้ว่าจะเป็นกลุ่มที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ก็ตาม และแม้แต่ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องใช้หลักในการพูดคุยเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งไม่เชื่อว่าจะมีเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้น จึงอยากให้ทุกคนสบายใจ แต่ในเมื่อกองทัพ จะตรวจสอบ ก็ยินดี เป็นสิ่งที่กองทัพทำหน้าที่อยู่แล้ว โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะรอง ผอ.รมน. แต่ขอให้ตรวจสอบทุกกลุ่มทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้เตือนไปยังทุกฝ่ายที่กระทำผิดกฎหมาย หรือสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ส่วนการยุบรวมเวทีของ กปปส. นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ยังไม่เป็นที่สบายใจ จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมให้ทาง ศรส. และฝ่ายความมั่นคงประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ว่า จะมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่ นอกจากนี้ ได้กำชับ ผบ.ตร. ให้เร่งรัดคดีการก่อเหตุป่วนปาระเบิดในที่ต่าง ๆ รวมถึงเหตุกราดยิงบ้าน คุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ มารดาของ นางทยา ทีปสุวรรณ แกนนำ กปปส. ด้วย

 

กองทัพบก ลั่น ยอมไม่ได้แบ่งแยกดินแดน

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงเรื่องการแบ่งแยกดินแดน เป็น สปป.ล้านนา ว่า เรื่องดังกล่าว ทาง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 จะเป็นผู้ดูแล หากเป็นเรื่องของการแยกดินแดนแบบกายภาพ ทางกองทัพ ยอมไม่ได้ แต่ที่ผ่านมาเป็นแค่แนวความคิดก็ยังพอดำเนินการได้ ส่วนการตรวจสอบป้ายผ้า ต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง พร้อมยืนยัน กองทัพ ไม่ได้เพิกเฉยและไม่ได้เลือกปฏิบัติ ตลอดจนไม่ได้เจาะจงเพียงพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่ต้องดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนกรณีที่ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำเสื้อแดง ได้พูดปลุกระดมประกาศออกรายการทางวิทยุ มีเนื้อหาแกมข่มขู่ว่า จะให้มวลชนไปจับตัว พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผบ.พล.1รอ. และ พ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ร.11 รอ. นั้น ทางฝ่ายกฎหมายกำลังดำเนินการอยู่ เพราะการกระทำเช่นนี้ ไม่เหมาะกับสถานการณ์ ส่วนการดูแลความปลอดภัย กปปส. หลังยุบรวมเวทีนั้น อาจมีการปรับกำลัง แต่ส่วนตัวยังไม่มีรายละเอียดในเรื่องนี้

 

ทภ.3แจ้งความแดงเชียงใหม่กบฏแยกดินแดน

มณฑลทหารบกที่ 33 กองทัพภาคที่ 3 ส่ง นายทหารพระธรรมนูญ เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อแกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ ในข้อหากบฏแบ่งแยกดินแดน ตามรัฐธรมนูญ มาตรา113 ฐานกระทำการอันขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 1 ในราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ตามคำสั่ง พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา ผบ.ทบ. แล้ว

ขณะเดียวกัน นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะ แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนใน จ.เชียงใหม่ ว่า ไม่มีเจตนาแบ่งแยกดินแดนตามที่สื่อเสนอข่าว เพียงแค่อยากปฏิรูปการเมืองใหม่ เท่านั้น

 

ธาริตบอกสปป.ล้านนายังไม่เข้าข่ายคดีพิเศษ

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสวบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ในฐานะกรรมการศูนย์รักษาความสงบ หรือ ศรส. แถลงสรุปผลการประชุม ว่า ศรส. เตรียมประสาน กกต. เพื่อช่วยเหลือจัดกำลังดูแลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ในวันที่ 30 มีนาคมนี้

ส่วนกรณีแกนนำ กปปส. ยุบเวทีการชุมนุมไปรวมที่สวนลุมพินี ถือเป็นการผ่อนคลายสถานการณ์ระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีความเป็นห่วงเวทีแจ้งวัฒนะ และรอบทำเนียบรัฐบาล รวมถึง การนำมวลชนไปปิดสถานที่ราชการและเอกชน ซึ่งผิดกฎหมาย จึงขอให้ยุติการชุมนุม

ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ จะส่งชุดเจรจาเข้าพบ พระพุทธะอิสระ เพื่อขอเปิดถนนแจ้งวัฒนะ และสถานที่ราชการ นอกจากนี้ ศรส. ยังเห็นชอบให้มีการออกหมายเรียกแกนนำ กปปส. 53 คน เป็นครั้งที่ 3 ในความผิดเกี่ยวกับการชุมนุม ระหว่างวันที่ 19-21 มีนาคมนี้ โดยหากไม่มาจะขอศาลออกหมายจับต่อไป

อย่างไรก็ตาม นายธาริต ในฐานะอธิบดีดีเอสไอ ได้กล่าวถึงการดำเนินคดีกับ สปป.ล้านนา ว่า ยังไม่เข้าข่ายคดีพิเศษ จึงต้องให้มีผู้ร้องทุกข์และนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ. พิจารณาก่อน ซึ่งขณะนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการสืบสวนหาข้อเท็จจริง

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง ::::::::::::::::::::::::::


สุรพงษ์ปัดคิดแยกปท.วอนเป็นธรรมเข้าใจผบ.ทบ.ห่วง
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=520385


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook