มติกกต.ชงศาลรธน.ตีความอำนาจปมเลือกตั้ง28เขต

คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีมติ ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยอำนาจการจัดเลือกตั้ง 28 เขต ที่ไม่มีผู้สมัครแล้ว พร้อม อนุมัติงบกลาง 2 หมื่นล้านบาท ให้รัฐบาลนำไปจ่ายจำนำข้าวชาวนา และให้ใช้คืน ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 นี้

นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการที่ทาง กกต.พิจารณาลงนามในหนังสือคำร้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยกรณีปัญหา 28 เขตเลือกตั้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้วันนี้ ได้มีมติส่งหนังสือคำร้องดังกล่าว ไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เพื่อให้พิจารณา ใน 3 ประเด็นต่อกรณี 28 เขตเลือกตั้งที่มีปัญหาไม่สามารถรับสมัคร ส.ส.ได้

โดย 3 ประเด็นดังกล่าว ประกอบด้วย การจัดการเลือกตั้งใน 28 เขตเลือกตั้ง นั้น ทาง กกต.สามารถออกเป็นประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 235 และมาตรา 236 ประกอบมาตรา 93 วรรค 6 ได้หรือไม่ โดยหากศาลวินิจฉัยแล้วเห็นว่า กกต. ไม่มีอำนาจในการออกประกาศดังกล่าว ดังนั้น การจัดการเลือกตั้งเพิ่มเติม จะต้องกระทำโดยการออกพระราชกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติม โดย นายกรัฐมนตรี ที่จะต้องนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 และมาตรา 187 ใช่หรือไม่

โดยหากศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่าต้องมีการตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ให้มีการเลือกตั้งเพิ่มเติมในกรณี 28 เขตแล้ว การตราพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวจะกำหนดให้ลงคะแนนเลือกตั้ง เฉพาะ 28 ที่มีปัญหา หรือ ให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ขึ้นใหม่ทุกเขตเลือกตั้ง เพื่อให้ชอบด้วยหลักการตามรัฐธรรมนูญ ที่ระบุให้การเลือกตั้งทั่วไปจะต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วประเทศ

 

กกต.อนุมัติครม.นำงบกลาง2หมื่นล้านจ่ายชาวนา

ภายหลังการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง เสร็จสิ้น ล่าสุด รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเบือกตั้ง
ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยผลการประชุม ระบุว่า ที่ประชุม กกต. มีมติอนุมัติให้คณะรัฐมนตรี ยืม
งบกลางฉุกเฉิน จำนวน 2 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในการชำระหนี้คงค้างแก่ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าว ตามมติของคณะรัฐมนตรี

โดย รศ.สมชัย ระบุว่า งบประมาณดังกล่าวเป็นเงินยืมทดลองราชการ ที่ทำสัญญาระหว่าง กรมการค้าต่างประเทศ กับ กระทรวงการคลัง และคำขอดังกล่าวนั้น เป็นการของบกลางใช้ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่ง กกต. มีอำนาจเต็มในการอนุมัติ โดยจากการชี้แจงของ ผอ.สำนักงบประมาณ ได้มีการประมาณการว่า วงเงินดังกล่าวทางรัฐบาลจะสามารถใช้คืนได้ในเดือนพฤษาคมนี้ และจากการดูสัดส่วนวงเงินงบกลางทั้งหมดนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อวงเงินสำรองเพื่อกรณีฉุกเฉิน และในสัดส่วนอื่นๆ ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงกำหนดให้ใช้คืน ภายในวันที่ 31 พ.ค. 2557 นี้ ตามกรอบการประเมินที่รัฐบาลชุดปัจจุบันยังคงรักษาการอยู่โดยไม่เป็นผลผูกพันต่อรัฐบาลชุดต่อไป เพราะเชื่อว่า การดำเนินการจัดการเลือกตั้งนั้น จะสามารถจัดการได้แล้วเสร็จ ในเดือนพฤษภาคมนี้

ส่วนประเด็นการได้เปรียบเสียเปรียบทางการเลือกตั้งนั้น กกต. เห็นว่า วงเงินดังกล่าวใช้ในการชำระหนี้ใบประทวนชาวนา ของเดือนพฤศจิกายน 2556 เท่านั้น และเกิดขึ้นก่อนการยุบสภาฯ จึงไม่มีผลต่อการเลือกตั้ง