เปิดปม..รัฐบาลท้าทายอำนาจตุลาการ หาช่องหาตำแหน่งแทนให้ ภราดร

เปิดปม..รัฐบาลท้าทายอำนาจตุลาการ หาช่องหาตำแหน่งแทนให้ ภราดร

เปิดปม..รัฐบาลท้าทายอำนาจตุลาการ หาช่องหาตำแหน่งแทนให้ ภราดร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นประเด็นร้อนทางการเมืองที่น่าสนใจขึ้นมาทันทีหลังจาก การให้สัมภาษณ์สื่อของมือกฏหมายคนสำคัญของพรรคเพื่อไทยอย่าง พงศ์เทพ เทพกาญจนา รักษาการรองนายกรัฐมนตรี กรณีศาลปกครองสูงสุด สั่งให้คืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.ให้นายถวิล เปลี่ยนสี ภายใน 45 วันว่า รัฐบาลอาจทำไม่ทันภายในระยะเวลาที่ศาลสั่ง โดยอ้างเหตุผลว่ามีขั้นตอนมากในการดำเนินการ และยังเลยเถิดไปถึง หากไม่ดำเนินการได้ทันใน45 วันก็ไม่มีบทลงโทษอะไร
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา เพราะนี้เป็นการแสดงออกที่ชัดเจนจนอาจตีความได้ว่า ....รัฐบาลรักษาการของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังจะเลี่ยงไม่ทำตามคำสั่งศาล หรืออาจมองแบบร้ายสุดขั้วว่า รัฐบาล กำลังท้าทายอำนาจศาลสถิตยุติธรรมหรือไม่
อย่างไรก็ตามวันนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้ออกมายืนยันว่า จะทำเรื่องคืนตำแหน่งให้กับ นายถวิล เปลี่ยนสีได้ทัน 45 วันโดยมอบให้นายสุรนันทน์ เชชาชีวะเลขาธิการนายกรัฐมนตรีไปดำเนินการ แต่ นายกรัฐมนตรีย้ำว่า เรื่องนี้ต้องใช้เวลาไม่สามารถทำได้รวดเร็ว

ขณะที่นายสุรนันทน์ เองได้ให้ความเห็นว่า คงสามารถแต่งตั้งได้ในเวลา 45 วันตามกำหนด แต่ต้องใช้เวลาเพราะกระบวนการมีความซับซ้อนพอสมควร และต้องเสนอ คณะรัฐมนตรี ก่อนที่จะส่งไปยังคณะกรมการเลือกตั้ง(กกต.)พิจารณาด้วยเพราะเป็นการดำเนินการในช่วงการเลือกตั้ง

ซึ่งในเรื่องดังกล่าวนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้ความเห็นกรณีความเห็นของ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ซึ่งอดีตเคยเป็นถึงผู้พิพากษาว่า เป็นการกระทำที่เหิมเกริมมากของทีมกฎหมายรัฐบาล พยายามทำให้เห็นว่า ตุลาการกับรัฐบาลมีปัญหา ตุลาการให้รัฐบาลแพ้คดี ทั้งนี้การคืนตำแหน่งเลขา สมช.ให้นายถวิลสามารถทำได้โดยเร็ว โดยนำเสนอ คณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าเพราะไม่ใช้เรื่องซับซ้อนอะไร และ เสนอ กกต.ได้ทันที

ในขณะ ความเห็นทางวิชาการ ของนักกฎหมายอย่าง ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสยามให้ความเห็นกับทีมข่าว sanook.com ว่า การให้ความเห็นของนายพงศ์เทพ เป็นการตีความที่เอาแต่ประโยชน์ใส่ตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะคำสั่งศาลมุ่งประสงค์ที่ชัดเจน และมีกรอบระยะเวลาซึ่งได้พิจารณามาแล้วว่าสามารถดำเนินการได้ หากไม่ดำเนินการอาจจะมีความผิดอย่างเช่น ละเมิดศาล และ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯกฎหมายอาญามาตรา157 ได้
ซึ่งกรณีนี้เชื่อว่ารัฐบาลเพียงต้องการยื้อเวลาออกไปเท่านั้น เพราะสิ่งที่เป็นปัญหาของรัฐบาลไม่ใช่คืนตำแหน่งให้นายถวิล เปลี่ยนสี เพราะเป็นการคืนสภาพเดิมไม่ใช่การแต่งตั้งใหม่ สามารถดำเนินการได้ภายใน 3 วัน แต่ที่เป็นปัญหาของรัฐบาลที่ต้องขอความเห็นจาก กกต.คือ จะหาตำแหน่งอะไรให้นาย ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯสภาความมั่นคง คนปัจจุบันมากกว่า ถ้าเป็นตำแหน่งลอยไม่มีอำนาจการบริหารก็คงไม่เป็นปัญหา
นอกจากนี้ ดร.เจษฎ์ ยังให้ความเห็นด้วยว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลมีการกระทำที่ถือว่าเป็นการท้าทายอำนาจตุลาการมาโดยตลอด อย่างเช่น เวลามีการแก้กฏหมาย และศาลสั่งให้ไปดำเนินการให้ถูกต้อง ก็มักจะเลี่ยงอยู่เสมอ

สำหรับพล.ท.ภารดร พัฒนถาบุตร ในการเข้ามานั่งตำแหน่งเลขาฯสมช.แทนนายถวิลจนเป็นปัญหานำไปสู่การฟ้องร้องคดีในครั้งนี้นั้นมีการ ลือกันให้สนั่นว่าเป็นการแต่งตั้งที่ต้องการตอบแทน "ผู้มีพระคุณ" เพราะ "พล.ท.ภราดร" คือหลานของ "ปรีดา พัฒนถาบุตร" เจ้านายเก่าของ "นายใหญ่"นั้นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook