แกะรอยปริศนา"บินมาเลย์"สูญ! ฝีมือก่อการร้าย-เครื่องบกพร่องหรือนักบินผิดพลาด

การสูญหายของเครื่องบินโบอิ้ง 777-200ER สายการบินมาเลเซีย เที่ยวบิน MH370 กำลังเป็นเรื่องลึกลับปริศนา

ตามตารางบินของ MH 370 กำหนดพาผู้โดยสารและลูกเรือรวม 239 ชีวิตทะยานออกจากสนามบินกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เวลา 00.41น.วันเสาร์ที่ 8มีนาคม (ตามเวลาท้องถิ่น)

ตามปกติจะต้องถึงกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในเวลา 06.30น.ของวันเดียวกัน

ปรากฎว่าในเวลา 02.40น. เครื่องบินลำนี้หายไปจากจอเรดาร์ โดยนักบินไม่ได้แจ้งสัญญาณใดๆมายังภาคพื้นดิน

ถ้าคำนวณระยะการบิน น่าจะอยู่เหนือน่านฟ้าของประเทศเวียตนามบริเวณทะเลจีนใต้หรือทะเลเวียตนามตอนใต้

ปกติเหตุที่ทำให้เครื่องบินตกมักหนีไม่พ้นประสบอากาศแปรปรวนความผิดพลาดของนักบินหรือความผิดปกติของเครื่องบินเอง

แต่เที่ยวบินนี้ได้รับการยืนยันจากบันทึกสภาพอากาศในช่วงที่MH370บินนั้นอยู่ในสภาวะดีเยี่ยมประกอบกับตัวกัปตันมีชั่วโมงบินมากกว่า18,000ชั่วโมง และทำงานกับสายการบินมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2524

สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ได้รับการยกย่องในเรื่องของความปลอดภัยและตัวเครื่องโบอิ้ง777-200ERถือว่าเป็นเครื่องบินที่มีความปลอดภัยสูงเพราะใช้เทคโนโลยีใหม่ในการออกแบบ

เคยมีรายงานเกี่ยวกับปลายปีกของเครื่องบินรุ่นนี้ทำงานไม่ปกติระหว่างทะยานออกจากรันเวย์ในปี2555แต่ได้รับการแก้ไขและผ่านการรับรองความปลอดภัยแล้ว

นายเดวิด เลียร์เมานท์ บรรณาธิการบทความออนไลน์ว่าด้วยการบินและความปลอดภัย"ไฟลท์โกลบอล"กล่าวว่าเครื่องบินสมัยนี้มีความปลอดภัยสูงยากมากที่เครื่องบินจะเกิดเหตุตกโดยกระหันทันแทบเป็นไปไม่ได้เลย

การสูญหายของเครื่องบินมาเลเซียยังคงปริศนา จึงมีข้อสงสัยตามมาว่าเป็นฝีมือของขบวนการก่อการร้ายหรือไม่ ?

หน่วยงานสอบกลางของสหรัฐฯ(เอฟบีไอ) ที่ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบประเด็นข้อสงสัยนี้ในมาเลเซีย แต่ยังไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงว่ากลุ่มก่อการร้ายโจมตีเครื่องบินของมาเลเซียแอร์ไลน์

เอฟบีไอพบเพียงพาสปอร์ตปลอม2เล่มของผู้โดยสารเที่ยวบินดังกล่าวแต่น่าจะเกี่ยวโยงกับการเข้าเมืองผิดกฎหมายมากกว่า

อย่างไรก็ดีเมื่อครั้งสายการบินแอร์อินเดียตกเมื่อปี2553 เส้นทางจากเมืองบังกาลอร์ไปนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พบว่ามีผู้โดยสารใช้พาสปอร์ตปลอมมากถึง 10 เล่ม

อีกข้อสงสัยที่ว่าเครื่องบินสมัยใหม่จะหายสาบสูญ เป็นไปได้หรือไม่?

ในเหตุการณ์เครื่องบินสายการบินแอร์ฟรานซ์เที่ยวบินจากบราซิลไปฝรั่งเศสหายไปในมหาสมุทรแอตแลนติคเมื่อวันที่1กรกฎาคม2552พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ288คนมีการพบชิ้นส่วนเครื่องบินในวันถัดมา

แต่ใช้เวลาถึงสองปีจึงค้นพบกล่องบันทึกการบินหรือกล่องดำ บริเวณก้นมหาสมุทร

สำหรับกรณีของเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์นั้น ถ้าหากตกลงในบริเวณน่านน้ำเวียดนามและช่องแคบมะละกา ซึ่งมีความลึกไม่มาก กล่องดำของเครื่องบินสมัยใหม่เช่น โบอิ้ง777-200ER สามารถส่งสัญญานอัลตราโซนิค สามารถรับคลื่นได้แม้กล่องดำอยู่ใต้น้ำ

ในสภาพอากาศที่ดีไม่มีพายุ เครื่องรับสัญญานสามารถรับคลืนจากกล่องดำได้จากระยะไกลหลายร้อยกิโลเมตร

แต่หากจุดที่เครื่องบินตกไม่เป็นที่แน่ชัด หรือไม่ทราบถึงกระแสน้ำหรือกระแสลมในขณะตก

ปฏิบัติการค้นหาเครืองบินจะเป็นไปในลักษณะปูพรม คือนำกองเรือจำนวนมากออกค้นในบริเวณกว้าง เพื่อหาเศษชิ้นส่วนเล็กๆของเครื่องบิน

วันนี้การค้นหา"โบอิ้ง 777-200ER"เที่ยวบิน MH 370 ย่างเข้าสู่วันที่สามแล้ว ยังไม่มีสัญญาณใด ๆ บ่งบอกว่า เครื่องบินลำนี้อยู่ที่ใด อยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่ หรือกลายเป็นเศษชิ้นส่วนในท้องทะเลไปแล้ว?

 

ที่มา :http://www.bbc.com/news/world-asia-26510027

วนิตา พริ้งรักษา -เรียบเรียง