นายกฯนำถกครม.สามพรานผบ.ตร.ชงเลิกพรก.สัปดาห์หน้า

 

นายกรัฐมนตรี เข้าประชุม ครม. ปัดไม่ทราบ จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน วันนี้ ด้าน ผบ.ตร. ระบุ ศรส. จะประเมินสถานการณ์ทางการเมืองอีกครั้งสัปดาห์หน้า

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม แล้ว โดยปฏิเสธไม่ทราบว่า ที่ประชุม ครม. วันนี้ จะมีการเสนอยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อดูแลสถานการณ์ทางการเมืองหรือไม่ ทั้งนี้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาประชุม ครม. ได้เดินทางเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจ ด.ต.ธีรเดช เล็กภู่ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรแสนสุข จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นผู้เตะระเบิดที่ถูกโยนเข้าใส่กลุ่มตำรวจ บริเวณสะพานผ่านฟ้า ในระหว่างเจ้าหน้าที่เข้าขอคืนพื้นที่ เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา รวมถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการดูแลการชุมนุมทางการเมืองด้วย

ขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ศรส. จะมีการประเมินสถานการณ์ทางการเมือง ก่อนจะเสนอ ครม. พิจารณายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ใช้ควบคุมดูแลการชุมนุมทางการเมืองในสัปดาห์หน้า ส่วนคดีที่ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมนั้น อยู่ระหว่างดำเนินคดีตามขั้นตอน

 

รมต.ท่องเที่ยว หนุนยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยก่อนการเข้าประชุม ครม. ว่า ผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้น ทำให้ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวในเขตกรุงเทพมหานคร มีจำนวนลดลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศญี่ปุ่น มีประมาณวันละ 45,000 คน ลดลงจากปีก่อน ที่มีประมาณวันละ 70,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะใช้เวลาในการท่องเที่ยวประมาณ 6 วัน มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณวันละ 5,000 บาทต่อคนต่อวัน ซึ่งเมื่อคำนวนจะทราบถึงยอดที่สูญหายไป

ทั้งนี้มองว่า หากมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นโอกาสทองในการท่องเที่ยวของไทย เนื่องจากประเทศในแถบทวีปยุโรป สหรัฐอเมริกา และจีน เกิดภาวะอากาศหนาวเย็น แต่ไทยกลับไม่ได้โอกาสนั้น

นอกจากนี้ นายสมศักย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การยึดพาสปอร์ตของนักท่องเที่ยวในการเช่ารถยนต์ และรถจักรยานยนต์ป้ายดำ เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ซึ่งจากนี้จะนำเรื่องดังกล่าวหารือกับทางกระทรวงคมนาคม ดูแนวทางแก้ไขปัญหา เบื้องต้นมองว่า การแสดงหลักฐานถ่ายเอกสารเก็บไว้ก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องยึดพาสปอร์ตตัวจริง