ป้าเผยหลานฆ่ายกครัว อาจเก็บกดแม่เจ้าระเบียบ
จากกรณีพบศพ นายภานุวัตร ศรพรหม,นางเยาวลักษณ์ ศรพรหม และบุตรชายอายุ 16 ปี ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็กของทั้งคู่ ถูกยิงเสียชีวิตภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้านเลขที่ 9/5 หมู่บ้านเมลาวิลล์ ถนนเสมาฟ้าคราม ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งในเวลาต่อมาลูกชายคนโต อายุ 19 ปี ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าพ่อแม่และน้องชายเอง เนื่องจากแค้นพ่อแม่ไม่ซื้อรถให้ตามสัญญา และน้อยใจที่ถูกต่อว่า
โดยเมื่อวานนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (11 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้นำตัวพี่คนโต อายุ 19 ปี เรียนอยู่ ปี 1 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง บ้านอยู่ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านพักพร้อมทั้งได้ขอขมาต่อหน้ารูป พ่อแม่และน้อง โดยที่เกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปจ. คอยคุ้มกัน
ด้าน นางสมคิด อุดเนียม อายุ 58 ปี มีศักดิ์เป็นลูกผู้พี่ของบิดาของเด็ก กล่าวว่า ญาติทุกคนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะปกติครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่อบอุ่น ทุกวันหยุดหรือเทศกาลต่างๆ บิดาของเด็กจะพาครอบครัวมาเยี่ยมญาติที่สุพรรณบุรี ส่วนหลานชายทั้ง 2 คนที่เสียชีวิตและที่ก่อเหตุ ปกติก็เป็นที่นิสัยดีพูดจาไม่ก้าวร้าวให้ความเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ และสนิทกับตนเองมากมีอะไรก็จะคุยล้อเล่นกันเสมอ ญาติทุกคนไม่รู้สึกโกรธที่หลานคนโตก่อเหตุและทุกคนให้อภัย
นางสมคิด กล่าวถึงสาเหตุการก่อเหตุว่า ไม่ทราบ และไม่อยากจะไปรื้อฟื้นเพราะหยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ แต่ในความรู้สึกตนเท่าที่ทราบคุณแม่ของหลานเป็นคนค่อนข้างตึงและเจ้าระเบียบพอสมควร แม้แต่เวลาหลานมาบ้านเวลาพี่ป้าน้าอาจะให้เงิน คุณแม่จะห้ามไม่ให้ให้ และจะห้ามทุกอย่างที่ไม่เหมาะสม จึงอาจจะทำให้หลานมีอาการเก็บกด กรณีเรื่องที่สัญญาว่าจะซื้อรถให้แต่ไม่ซื้ออาจเป็นส่วนหนึ่ง แต่คุณแม่ของหลานเคยบอกว่าซื้อคอนโดให้แล้ว ส่วนรถไม่ซื้อให้โดยเด็ดขาด เพราะเป็นห่วงไม่อยากให้ขับรถกลัวเกิดอุบัติเหตุ อยากฝากบอกหลานว่าที่ก่อเหตุว่าญาติพี่น้องทุกคนให้อภัยไม่ถือโทษโกรธเคืองไม่แค้นแต่อย่างใด และจะเป็นกำลังใจให้หลาน เพราะรู้ดีว่าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
ทั้งนี้ ศพของ 3 พ่อแม่ลูก ถูกตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดราษฎร์บำรุง หมู่ 5 ต.ไผ่กองดิน อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี โดยศพบิดาและมารดา จะทำการฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 16 มี.ค. ส่วนลูกชายคนเล็กจะฌาปนกิจ วันพฤหัสบดีที่ 13 มี.ค. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาฆ่าบุพาการีโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังเฝ้าดูพฤติกรรมของผู้ต้องหาอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงจะคิดสั้นทำร้ายตัวเอง เนื่องจากคดีนี้มีโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต