ญาติไม่เชื่อคำสารภาพหลานชาย ฆ่าพ่อ แม่ น้องชาย

ญาติไม่เชื่อคำสารภาพหลานชาย ฆ่าพ่อ แม่ น้องชาย

ญาติไม่เชื่อคำสารภาพหลานชาย ฆ่าพ่อ แม่ น้องชาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีพบศพ นายภานุวัตร ศรพรหม,นางเยาวลักษณ์ ศรพรหม และบุตรชายอายุ 16 ปี ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็กของทั้งคู่ ถูกยิงเสียชีวิตภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้านเลขที่ 9/5 หมู่บ้านเมลาวิลล์ ถนนเสมาฟ้าคราม ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งในเวลาต่อมาลูกชายคนโต อายุ 19 ปี ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าพ่อแม่และน้องชายเอง เนื่องจากแค้นพ่อแม่ไม่ซื้อรถให้ตามสัญญา และน้อยใจที่พ่อแม่รักน้องมากกว่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (14 มี.ค.) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ว่าญาติติดใจคำให้การของพี่ชายคนโต โดยวานนี้ (13 มี.ค.) ได้มีพิธีการฌาปนกิจศพน้องชายคนเล็ก อายุ 16 ปี ที่วัดราษฎร์บำรุง หมู่ 5 ต.ไผ่กองดิน อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี โดยมีคณะครูและเพื่อนๆ ที่โรงเรียนมาร่วมในพิธี หลังจากกล่าวคำอาลัย เพื่อนร่วมชั้นก็ร่วมร้องเพลงไว้อาลัยครั้งสุดท้าย ส่วนคุณแม่จะมีพิธีฌาปนกิจศพ จะจัดขึ้นวันอาทิตย์นี้เวลา 09.00 น. ส่วนคุณพ่อเวลา 16.00 น. เนื่องจากเป็นอดีตข้าราชการกรมป่าไม้ จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ โดยผู้สื่อข่าวได้มีการพูดคุยกับญาติๆ ทั้งฝ่ายพ่อและแม่ ทุกคนยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังไม่เชื่อในคำให้การของหลาน เพราะดูจากการวางแผนและคำให้การเปรียบเทียบกับการกระทำต้องโกรธแค้นมากๆ เพราะครอบครัวของหลานเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ จึงไม่เชื่อว่าหลานจะกดดันจนตัดสินใจก่อเหตุขึ้น

โดย น้าชายและน้าสาว ญาติฝั่งแม่ของผู้ต้องหา บอกว่าไม่อยากจะเชื่อ พร้อมได้นำภาพซึ่งถ่ายขึ้นเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา โดยตั้งข้อสงสัยว่าทำไมผ่านมาไม่ถึง 3 เดือน หลานอายุ 19 ปี ถึงมาก่อเหตุ โดยน้าสาวบอกว่าหลานไม่มีลักษณะเก็บกด อาจมีโลกส่วนตัวสูงบ้าง แต่ไม่ได้เก็บตัว เมื่อก่อนเจอกันเกือบทุกวัน แต่หลังจากเข้ามหาวิทยาลัยก็เจอกันน้อยลง แต่ทักทายคุยกันปกติ ยอมรับว่าประมาณปีกว่าหลานมาปรึกษาเรื่องแม่ไม่ยอมให้ออกไปเที่ยวคนเดียว ตนก็อธิบายไปว่าช่วงนั้นมีข่าวเด็กนักเรียนยิงกันตีกันบ่อยๆ แม่เป็นห่วงจึงไปรับไปส่งตลอด ตนยังบอกพี่สาวว่าถ้าลูกโตแล้วก็ให้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ บ้าง ตอนนั้นหลานก็เข้าใจ และพอเข้ามหาวิทยาลัย ขึ้นปี 1 ทางบ้านก็ปล่อยเป็นอิสระ ไปไหนเองคนเดียว ส่วนเรื่องซื้อรถ คุณพ่อของหลานซื้อรถมาแล้ว เพราะหลานบอกเองว่าอยากได้นิสสัน เทียน่า แต่ด้วยวุฒิภาวะของหลานยังน้อย คุณพ่อก็เลยให้ขับได้เฉพาะเวลาอยู่กับคุณพ่อเพราะกลัวจะเกิดอันตราย

"น้องเขารักพี่เขามาก เขาปรึกษากันนะคะ เวลามีปัญหาอะไรเขาปรึกษากัน ตกใจมาก ไม่เชื่อ งง ช็อกเกิดอะไรขึ้น คือหลานไม่ใช่คนแบบนี้" น้าสาว กล่าว

ด้าน น้าชาย ซึ่งอยู่กับหลานตลอด ขณะที่ตำรวจสอบปากคำ กล่าวว่า สงสัยในคำให้การของหลานที่บอกว่าถูกครอบครัวกดดัน เพราะมันขัดแย้งกับสภาพความเป็นจริงของครอบครัว เพราะครอบครัวของพี่สาวสมบูรณ์เต็มร้อย ไม่เคยเห็นว่าดุด่าหรือใช้ความรุนแรง เรื่องเรียนหลานก็เลือกเรียนเองทุกอย่าง ครอบครัวไม่เคยบังคับ สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ทุกคนก็ภูมิใจ น้องเขาภูมิใจ คุณพ่อก็พาซื้อคอนโดใกล้มหาวิทยาลัยให้อยู่ เพราะสะดวกเรื่องการเดินทาง ตอนนี้หลานมีแทบทุกอย่างมีมากกว่าน้องชายคนเล็กด้วยซ้ำ ทำให้ทุกคนเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นแรงกดดันจากครอบครัว

"มันเกิดขึ้นคนเดียวไม่ได้ ในความคิดส่วนตัวของผม เด็กคนเดียวจะสามารถวางแผนขนาดนี้ และดำเนินการด้วยตัวเองคนเดียว มันจะได้อะไรขึ้นมา เพราะว่าที่เขาทำมันมีแต่ความสูญเสีย มันไม่ได้อะไรเลย สุดท้ายตัวเขาก็สูญเสีย แต่แรงพลักดันและแรงจูงใจที่เขาเชื่อมั่น ทุกคนยังสงสัยอยู่ว่าเป็นเพราะอะไร"

ขณะที่ ย่าของผู้ต้องหา กล่าวว่า ครอบครัวนี้รักกันดี ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ทุกเทศกาลจะแวะมาเยี่ยมย่าทุกครั้ง พ่อแม่บ่นลูกเป็นเรื่องปกติ พอทราบข่าวไม่เชื่อว่าหลานคนโตจะทำ และไม่คิดว่าเด็กคนเดียวจะทำได้ มีคนแนะหรือคนยุหรือเปล่า ย่าเองก็ไม่รู้ คุณย่าบอกว่าหลังเกิดเหตุตอนเจอหน้าหลานครั้งแรก หลานไม่ได้บอกว่าทำไปเพราะอะไร เพียงแต่บอกว่าขอโทษ และหลังพ้นโทษจะขอบวชไม่สึก ตนก็ให้อภัยเพราะว่าเป็นหลาน

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ ของ ญาติไม่เชื่อคำสารภาพหลานชาย ฆ่าพ่อ แม่ น้องชาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook