ป่วน!วางนาฬิกาปลุกพันเทปกาวหน้าอสส.-EODรุดตรวจ

ป่วน!วางนาฬิกาปลุกพันเทปกาวหน้าอสส.-EODรุดตรวจ

ป่วน!วางนาฬิกาปลุกพันเทปกาวหน้าอสส.-EODรุดตรวจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เกิดเหตุ ป่วนวางนาฬิกาปลุกพันเทปสายไฟ หน้า สำนักงานอัยการสูงสุด เจ้าหน้าที่ EODทำลายแล้ว ตั้งเวลา 9 โมงแรง 40 เมตร ขณะที่ พบอีกจุด สนง.ศาล - เร่งกู้

เกิดเหตุพบกระเป๋าต้องสงสัย ที่จุดจอดรถแท็กซี่อัจฉริยะ หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ช่วงขาออก ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ปิดการจราจรช่องซ้าย 1 ช่องทาง เพื่อดำเนินการตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่เก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด อยู่ระหว่างเดินทางเข้าตรวจสอบ ซึ่งรายละเอียดความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป

ความคืบหน้า เจ้าหน้าที่ทหาร และ ตำรวจ สน.พหลโยธิน เดินทางเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย บริเวณ ถังขยะ ที่วางไว้บนบาทวิถี ริมถนนรัชดาภิเษก ตรง ป้ายจุดจอดรถอัจฉริยะ หน้าสำนักงานอัยการสูงสุด โดยวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว เป็นนาฬิกา ปลุก ขนาดเท่า1 ฝ่ามือ  พันเทปสายไฟ สีดำ และวางอยู่ในกระเป๋าสีดำ บนถังขยะ ที่มีฝาเปิด

โดย พนักงานทำความสะอาด ของกรุงเทพมหานคร ที่กำลังทำความสะอาดพื้นที่ กวาดขยะ ได้เข้ามาพบเห็นเป็นคนแรกจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ ให้เข้าตรวจสอบ

ซึ่งขณะนี้ ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้นำ ยางรถยนต์ จำนวน 7 ล้อ วางกั้นโดยรอบถังขยะ พร้อมกับนำเชือกมากั้นพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมกับปิดการจราจร ถนนรัชดาภิเษกฝั่งขาออก ช่วงหน้า อัยการสูงสุด จำนวน 3 ช่องจราจร ส่งผลให้การจราจร ติดขัด

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ อยู่ระหว่างรอ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี เข้าตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุ

ขณะที่ล่าสุด เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี ได้เข้าทำลายแล้ว รัศมีแรงระเบิดทำลายในระยะ 40 เมตร

 

พบวัตถุต้องสงสัยหน้าศาลเพิ่มอีก1จุดเร่งสอบ

กองบังการตำรวจจราจร แจ้ง ว่า สน.พหลโยธิน แจ้งเพิ่มเติม พบวัตถุต้องสงสัยเพิ่มอีก 1 จุด บริเวณหน้า
สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ถนนรัชดาภิเษก ขาออก ปิดการจราจรในจุดดังกล่าว ช่วง
นี้ เจ้าหน้าที่จัดการจราจรโดยรถที่ใช้ถนนลาดพร้าว ขาเข้า ห้ามเลี้ยวขวาที่แยกรัชดาลาดพร้าว ให้ตรงไปปาก
ทางลาดพร้าว ส่วนรถที่ใช้ถนนรัชดาภิเษก ขาออก จาก แยกรัชดาสุทธิสาร มุ่งหน้า แยกรัชดาลาดพร้าว
เจ้าหน้าที่จะปัดให้รถเลี้ยวซ้ายที่แยกรัชดาลาดพร้าวไปใช้ถนนลาดพร้าว ขาเข้า ตรงไปปากทางลาดพร้าวแทน

 

สุรพงษ์เชื่อบึ้มอสส.โยงถอน7องค์กรอิสระ

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เชื่อว่า เหตุวางระเบิดหน้าสำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา เกิดจากอัยการสูงสุดถอนตัวในการร่วมกับ 7 องค์กรอิสระ เพื่อเสนอทางออกให้แก่ประเทศไทย

พร้อมกันนี้ ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้เหลือองค์กรอิสระเพียง 6 องค์กร ที่จะร่วมเจรจาหาทางออก ซึ่งหวังว่า 4 ประเด็น ของกรอบการหารือ จะมีเรื่องการสนับสนุนการเลือกตั้งการปฏิญาณตนว่าองค์กรอิสระจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรม รวมถึงความชัดเจนว่าจะปฏิรูปตนเองให้ประชาชนเชื่อมั่นอย่างไร และภายหลังปฏิรูปองค์กรอิสระแล้วเสร็จ ก็จะมีการยุบสภา และปฏิรูปการเมืองใหม่ เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้

นอกจากนี้ นายสุรพงษ์ ยังกล่าวด้วยว่า พรุ่งนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะพิจารณายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกลับไปใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในการควบคุมดูแลสถานการณ์แทน ซึ่งคาดว่าจะยังคงใช้โครงสร้างชุดเดิม โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นผู้อำนวยการ ศอ.รส.

ขณะที่เตรียมเสนอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปหารือกับกองทัพ ให้เคลื่อนย้ายบังเกอร์ทหารในพื้นที่กรุงเทพฯ เข้าไปประจำภายในสถานที่ราชการแทน พร้อมกับจะเชิญทูตเข้ามาชี้แจงทำความเข้าใจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศต่อไป

ส่วนการเปลี่ยนตัวประธาน นปช. เป็น นายจตุพร พรหมพันธุ์ เชื่อว่า เป็นการระมัดระวังไม่ให้เกิดรุนแรง และเชื่อว่า นายจตุพร ต้องการให้ประเทศกลับสู่สภาวะปกติ

 

ผกก.EODเผยวางบึ้มหน้าศาลคล้ายก่อเหตุใต้

พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผู้กำกับการกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กล่าวภายหลังเข้าตรวจสอบ และทำลายวัตถุระเบิด ด้านหน้าสำนักงานอัยการสูงสุด ถนน
รัชดาภิเษก วัตถุต้องสงสัยที่พบ เป็นระเบิดแสวงเครื่อง จุดชนวนระเบิดด้วยนาฬิกาปลุก รัศมีทำลายล้าง 20-40 เมตร มีการตั้งเวลาไว้ที่ 09.00 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำการเก็บกู้โดยการตัดวงจรของระเบิด เมื่อตรวจสอบด้านใน พบว่า มีถังดับเพลิงประกอบกับระเบิด เบื้องตนพบว่า ลักษณะการประกอบระเบิดนั้น คล้ายกับการก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้รับแจ้ง พบวัตถุต้องสงสัย ริมฟุตปาธ ด้านหน้าสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม เจ้าหน้าที่อีโอดีจึงเข้าตรวจสอบ พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายกับที่พบด้านหน้าสำนักงานอัยการ จึงทำ
การปิดถนนรัชดา ไม่ให้รถผ่านทั้งสองฝั่ง และทำการเก็บกู้โดยการตัดวงจรระเบิด และเมื่อตรวจสอบด้านในพบ
ว่า เป็นนาฬิกาปลุก และถังดับเพลิง อยู่ในถุงผ้าสีดำคล้ายถุงทะเล ซึ่งขณะนี้ทำการเก็บกู้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook