"มาร์ค"เชื่อเปลี่ยนตัวประธาน นปช. เปิดทางเสื้อแดงเข้ากรุง

"มาร์ค" เชื่อเปลี่ยนตัวประธานนปช.เปิดทางเสื้อแดงเข้ากรุง ไม่หวั่นปะทะกปปส. ชี้กองทัพท่าทีรัดกุม ปลุกผีรัฐประหารไม่ขึ้น เตือน "ปู" ดูบทเรียนพี่ชาย เงิน-อำนาจ อยู่เหนือความถูกต้องไม่ได้

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม เวลา 15.15น. ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าปชป. กล่าวถึงการเปลี่ยนตัวประธาน นปช.เป็นนายจตุพร พรหมพันธุ์ ว่า เมื่อนายจตุพรมาเป็นประธานคนก็นึกถึงบทบาทในแง่ของการปลุกระดม การเป็นผู้นำมวลชน ซึ่งต้องบอกว่าสถานการณ์ยังน่ากังวล โดยเราต้องดูท่าทีข้อสรุปหลังจาก 6 องค์กรหารือ ว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไร และคิดว่าในขณะนี้ไม่มีเหตุผลอะไรที่ประชาชนจะไปเป็นเหยื่อของการปลุกระดมจากการบิดเบือนข้อเท็จจริงของรัฐบาล ส่วนที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เป็นเลขาฯนปช.นั้น ตนไม่ได้สนใจ เพราะเป็นตำแหน่งการเคลื่อนไหวของกลุ่มเขา


ทั้งนี้ตนไม่แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของนปช.จะนำไปสู่ความรุนแรงหรือไม่ เพราะยังไม่มีการเผชิญหน้า เพียงแต่ไม่แน่ใจว่าจังหวะเวลาของการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้นจะเป็นจังหวะในการเปิดทางที่คิดให้นปช.เข้ามากทม.หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาดูเหมือนรัฐบาลยังอยากที่จะใช้พ.ร.ก.เป็นเครื่องมือ แต่ตอนหลังก็เปลี่ยนท่าทีไปหลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้ยกเลิกพ.ร.ก. จึงเป็นห่วงว่าจะใช้มวลชนเข้ามาปะทะ เพราะรัฐบาลยังส่งสัญญาณในลักษณะที่จะเผชิญหน้า


ผู้สื่อข่าวถามว่ามองดูสถานการณ์แล้วสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดรัฐประหารเหมือนปี 49 หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อปี 49 ความวิตกกังวลคือกลัวเกิดการปะทะกัน แต่วันนี้กลุ่มกปปส.พูดชัดว่าถ้ามาปะทะเขาไม่ปะทะด้วย จึงไม่มีเงื่อนไขที่จะให้รัฐประหาร ซึ่งน่าจะลดความกังวลไปได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้เห็นว่าแกนนำรัฐบาลพยายามปลุกเรื่องรัฐประหารขึ้นมาคงพยายามสร้างเงื่อนไข เพื่อให้สามารถระดมมวลชนมาได้ และรัฐบาลจะปลุกผีรัฐประหารสำเร็จหรือไม่นั้นก็อยู่ที่การวางท่าทีของฝ่ายกองทัพซึ่งตกเป็นเป้า แต่ก็เห็นว่าผบ.ทบ.ค่อนข้างรัดกุมในแนวทางของท่าน


"หากมีการชี้มูลความผิดน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี แล้วสงครามอาจจะเกิดขึ้นนั้นหรือไม่ ผมก็คิดว่ามีความพยายามที่จะใช้ตรงนั้นเป็นเงื่อนไข และเป็นลักษณะการข่มขู่ แต่วันนี้บ้านเมืองจะเดินไปได้ในระยะยาว คนทำหน้าที่ต้องทำอย่างเที่ยงตรง เป็นธรรม และถ้ารัฐบาลยังมีพฤติกรรมที่ข่มขู่ทั้งองค์กรอิสระและประชาชนอยู่ รัฐบาลก็คือคนที่ขวางการหาทางออก เพราะไม่พร้อมที่รับฟังคนอื่น นายกฯก็ต้องถามตัวเองว่าอยากให้บ้านเมืองเดินไปอย่างนี้เพราะอะไร เชื่อว่าท่านเองก็ไม่มีความสุข ดังนั้นก็ต้องฟังคนอื่นบ้าง ถ้าไปฟังคนรอบตัวแล้วใช้ตรรกะเดิมๆมันไม่ใช่ ดังนั้นอยากให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ดูบทเรียนจากพี่ชาย เพราะพิสูจน์มาแล้วว่ามันผิด และในที่สุดไม่ว่าจะ เงิน อำนาจ หรือคนรอบข้างก็ไม่สามารถอยู่เหนือความถูกต้องและกฎหมายได้ และประชาชนจะไม่ยอม" นายอภิสิทธิ์กล่าว