กปปส.ภารกิจพิเศษราบรื่น-เอกนัฏฉะสตช.จับแพะป๊อปคอร์น

ภาพรวมการเคลื่อนขบวนปฏิบัติภารกิจพิเศษของกลุ่ม กปปส. เป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีการก่อเหตุระหว่างเคลื่อนขบวน 'เอกนัฏ' ตั้งข้อสังเกตว่า วิธีการสอบสวนมือปืนป๊อปคอร์นเป็นการบังคับสารภาพจับแพะหรือไม่

ภาพรวมการชุมนุมของ กลุ่ม กปปส. รวมถึงการเคลื่อนขบวนปฏิบัติการพิเศษอย่าง เพื่อกดดันรัฐบาลรักษาการและเดินหน้าตัดท่อน้ำเลี้ยงภาคธุรกิจเครือชินวัตร เป็นไปด้วยความราบรื่น ไม่มีการก่อเหตุระหว่างการเคลื่อนขบวนแต่อย่างใด โดยขบวนของ นายวิทยา แก้วภราดัย นำมวลชนไปกระทรวงการคลัง และขบวนของ นายอิสสระ สมชัย ที่มอบหมายให้ นายทินกร อ่อนประทุม แกนนำย่อย พามวลชนไปกรมทางหลวงชนบท และสรรพากรเขต 11 จากนั้นเมื่อปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้น ทยอยกลับมายังเวทีให้มวลชนพักผ่อน

ขณะเดียวกัน แม้จะมีการประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกลับมาใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง แล้วก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ทหาร ยังคงตั้งบังเกอร์ คอยดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั้งที่ปักหลักชุมนุมและประชาชนทั่วไปเช่นเดิม ส่วนทางด้านการรักษาความปลอดภัยทั้งในและโดยรอบพื้นที่การชุมนุม ยังเป็นไปอย่างเข้มงวด รัดกุม โดยการ์ด กปปส. และการ์ดอาสา คอยสับเปลี่ยนเวรยามตลอด 24 ชั่วโมง

ด้าน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. กล่าวภายหลังจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช. สอบสวนผู้ต้องสงสัยที่อ้างว่าเป็นมือปืนป๊อปคอร์น เหตุปะทะหลักสี่ว่า ขณะนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ พบข้อพิรุธในคำสารภาพนั้นเร็วเกินไป อีกทั้งอ้างค่าจ้างการ์ด กปปส. วันละ 300 บาท ทั้งที่ข้อเท็จจริงวันละ 500 บาท และอ้างว่าใช้ปืนไม่เป็น และปืนไม่ใช่ของตน จึงผิดข้อสังเกตว่า คนที่มีความชำนาญ จะต้องมีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธที่จะตัดสินใจในเวลารวดเร็ว ดังนั้นจึงตังข้อสังเกต สตช. ว่า เหตุใดจึงให้ความสำคัญที่หลักสี่ มากกว่า ทั้งที่ไม่มีผู้เสียชีวิต และวิธีการสอบสวนสามารถเชื่อมโยงใส่ร้าย กปปส. จึงเกรงว่า มีการบังคับขู่เข็นให้สารภาพ หรือเป็นการจับแพะหรือไม่ ทาง สตช. ต้องออกมาชี้แจงให้ชัดเจน