1,000นัดไม่ช่วยอะไร,สิงห์ดุไล่กระหน่ำปืนเละเทะ 6-0
ฟุตบอล : "สิงห์โตน้ำเงิน-คราม" เปิดรังทำศึกลอนดอนดาร์บี้แมตช์เดินหน้าไล่ถล่ม อาร์เซน่อล เละเทะ 6-0โดยได้ประตูจาก ซามูเอล เอโต้, อังเดร ชูร์เล,เอแด็ง อาซาร์, ออสการ์ 2 ลูก และปิดท้าย ด้วย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ ฉลอง 1,000 นัดให้ตัวเองแบบกร่อยสุดๆ
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำสัปดาห์ เป็นคู่บิ๊กแมตช์ ศึก "ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์" ระหว่าง "สิงโตน้ำเงิน - คราม" เชลซี จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก มี 66 คะแนน เปิดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ต้อนรับการมาเยือนของ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ทีมอันดับที่ 3 มี 62 แต้ม เจ้าบ้าน โชเซ่ มูรินโญ่ จัดทีมชุดใหญ่ลงสนาม เช่น อังเดร ชูร์เล, ออสการ์, เอแด็ง อาซาร์ และ ซามูเอล เอโต้ ด้าน "ไอ้ปืนใหญ่" จัดทัพที่ดีที่สุดของพวกเขายกพลมาเยือน ทั้ง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน, โทมัส โรซิคสกี้, ซานติ กาซอร์ล่า, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และ ลูคัส โพดอลสกี้
เริ่มเกมการแข่งขัน เพียงแค่นาทีที่ 4 กองเชียร์เจ้าถิ่นก็ได้เฮกันลั่นสนามจากจังหวะสวนกลับเร็ว อังเดร ชูร์เล ลากบอลเข้ามาก่อนจ่ายให้กับ ซามูเอล เอโต้ เจ้าตัวล็อกบอลเข้าเท้าซ้ายก่อนปั่นบอลสุดสวยเข้าประตูไป ให้ เชลซี ขึ้นนำเร็ว 1-0
หลังจากเสียประตู อาร์เซน่อล ยังไม่ดีขึ้นตั้งเกมไม่ติด และในนาทีที่ 6 เท่านั้นจากการเสียบอลในแดนกลาง เนมันย่า มาติช จ่ายให้กับ อังเดร ชูร์เล หลุดเข้ามายิงนอกกรอบเขตโทษเข้าไป ช่วยให้ เชลซี นำห่าง 2-0
นาทีที่ 9 ซามูเอล เอโต้ ได้รับบาดเจ็บ จนต้องเปลี่ยนตัวออก โดย มูรินโญ่ ส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงไปแทน
เกมผ่านมาในนาทีที่ 15 เชลซี ยังคงบุกกระหน่ำอย่างหนัก และ เป็นจังหวะที่ เอแด็ง อาซาร์ หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษก่อนยิงไปทางเสาสอง แล้วเป็น อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ที่ยืนคุมเส้นอยู่ตรงนั้นพุ่งเอามือไปปัดบอลออกหลัง กรรมการ อังเดร มาริเนอร์ เป่าให้ เชลซีได้จุดโทษ แล้วเหตุการณ์เริ่มงุนงงนิดหน่อย ระหว่างที่นักเตะทั้งสองทีมต่างเข้ามาคุยกับกรรมการ อังเดรมาริเนอร์ ดันไปให้ใบแดง คีแรน กิ๊บบ์ส แบบงงๆ ซะอย่างนั้น แทนที่จะเป็น อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ที่จงใจใช้มือปัดบอล นาทีที่ 15 เชลซีนำห่าง 3-0 จากจุดโทษของ เอแด็ง อาซาร์ เจ้าตัวเลือกยิงไปที่กลางประตู ส่วน วอยเชียค เชสนี่ พุ่งไปทางขวา
นาทีที่ 24 อาร์แซน เวนเกอร์ เปลี่ยนตัวผู้เล่นสำรอง โดยส่ง โธมัส แฟร์มาเล่น ลงไปแทน ลูคัส โพดอลสกี้
นาทีที่ 29 ดาวิด ลุยซ์ ตัดบอลจาก แชมเบอร์เลน ได้ที่กลางสนาม ก่อนที่เจ้าตัวจะลากเข้ามาแล้วกดเต็มแรงบอลไปแฉลบแนวรับ อาร์เซน่อล ก่อนที่ เชสนี่ จะพุ่งปัดออกหลังไปได้หวุดหวิด
นาทีที่ 41 แนวรับ อาร์เซนอล ยังคงผิดพลาดกันอีกครั้ง และเป็น เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ได้บอล ศูนย์หน้าชาว สเปน กระชากไปทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนปาดบอลเข้ากลางมาให้ ออสการ์ชาร์ตจ่อๆเข้าไป ช่วยให้ เชลซี นำห่าง อาร์เซน่อล 4-0
ช่วงท้ายเกม อาร์เซน่อล พยายามเล่นสวนกลับเร็ว แต่ยังได้แค่หวาดเสียว เท่านั้น เกมในวันนี้ "ปืนใหญ่" ยังต่อบอลกันได้ไม่ไหลลื่น ส่วนเจ้าบ้าน เชลซี ยังคงเล่นเกมรุกได้ดุดันตลอดทั้ง 45นาทีแรก จบเกมการแข่งขันในครึ่งแรก เชลซี 4-0 อาร์เซน่อล
เริ่มเกมในครึ่งหลัง อาร์เซน่อล เปลี่ยนตัวผู้เล่น 2 คนรวด ส่ง มาติเยอ ฟลามินี่ และ คาร์ล เจนกินสัน ลงไปแทนที่ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน กับ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ตามลำดับ
นาทีที่ 60 อาร์เซน่อล พยายามเปิดเกมมากขึ้น และ ซานติ กาซอร์ล่า เกือบจะทำประตูได้ จากจังหวะได้บอลในเขตโทษด้านซ้าย ก่อนที่เจ้าตัวจะยิงหวังให้บอลเข้าเสาสอง แต่บอลหลุดออกหลังไปนิดเดียว
นาทีที่ 66 กองเชียร์ "สิงโตน้ำเงิน-คราม" มาได้เฮกันลั่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ จากจังหวะที่ ออสการ์ ได้บอลนอกกรอบเขตโทษเจ้าตัวตัดสินใจยิงทันที บอลพุ่งเข้าตาข่ายไปแบบสวยงามหมดจดช่วยให้ เชลซี นำห่าง อาร์เซน่อล 5-0
นาทีที่ 67 เชลซี เปลี่ยนตัวทันที ส่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงไปแทน ออสการ์
นาทีที่ 71 เละเทะอย่างแท้จริง เมื่อ แนวรับ อาร์เซน่อล ดันขึ้นสูงแล้วโดน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่วิ่งสอดมารับบอล ก่อนจะหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ วอยเชียค เชสนี่ แนวรุกอียิปต์ยิงสวนตัว เชสนี่ เข้าไปตุงตาข่าย ช่วยให้เชลซี นำห่าง อาร์เซน่อล 6-0
นาทีที่ 72 เชลซี เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดท้าย ส่ง จอห์น โอบี มิเกล ลงไปแทนที่ ดาวิด ลุยซ์
ช่วงท้ายเกม เชลซี ยังคงครองบอลได้มากกว่า ด้าน อาร์เซน่อล ได้โอกาส อีกครั้งจากจังหวะยิงไกลของ โทมัส โรซิคสกี้ แต่ ปีเตอร์ เช็ก ยังเซฟเอาไว้ได้ จบเกมการแข่งขัน เชลซี เปิดบ้านไล่ถล่มอาร์เซน่อล 6-0 เก็บ 3 คะแนน พร้อมรั้งตำแหน่ง จ่าฝูงต่อไป
รายชื่อ 11 ตัวจริง เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ดาวิด ลุยซ์ ( จอห์น โอบี มิเกล น.72 ), เนมันย่า มาติช, อังเดร ชูร์เล, ออสการ์ ( โมฮาเหม็ด ซาลาห์ น.67 ), เอแด็ง อาซาร์, ซามูเอล เอโต้ ( เฟร์นานโด ตอร์เรส น.9 )
ตัวสำรอง : แฟรงค์ แลมพาร์ด, เดมบ้า บา, มาร์ค ชวาร์เซอร์, โทมัส คาลาส
รายชื่อ 11 ตัวจริง อาร์เซน่อล : วอยเชียค เชสนี่, บาการี่ ซาญ่า, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ( คาร์ล เจนกินสัน น.45 ), คีแรน กิ๊บบ์ส, มิเคล อาร์เตต้า, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ( มาติเยอ ฟลามินี่ น.45 ), โทมัส โรซิคสกี้, ซานติ กาซอร์ล่า, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, ลูคัส โพดอลสกี้ (โธมัส แฟร์มาเล่น น.24)
ตัวสำรอง : ลูคัส ฟาเบียนสกี้, ยาย่า ซาโนโก้, คิม คัลล์สตรอม, เซอร์เก กนาบรี
ผู้ตัดสิน : อังเดร มาริเนอร์
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำสัปดาห์ เป็นคู่บิ๊กแมตช์ ศึก "ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์" ระหว่าง "สิงโตน้ำเงิน - คราม" เชลซี จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก มี 66 คะแนน เปิดสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ต้อนรับการมาเยือนของ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ทีมอันดับที่ 3 มี 62 แต้ม เจ้าบ้าน โชเซ่ มูรินโญ่ จัดทีมชุดใหญ่ลงสนาม เช่น อังเดร ชูร์เล, ออสการ์, เอแด็ง อาซาร์ และ ซามูเอล เอโต้ ด้าน "ไอ้ปืนใหญ่" จัดทัพที่ดีที่สุดของพวกเขายกพลมาเยือน ทั้ง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน, โทมัส โรซิคสกี้, ซานติ กาซอร์ล่า, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และ ลูคัส โพดอลสกี้
เริ่มเกมการแข่งขัน เพียงแค่นาทีที่ 4 กองเชียร์เจ้าถิ่นก็ได้เฮกันลั่นสนามจากจังหวะสวนกลับเร็ว อังเดร ชูร์เล ลากบอลเข้ามาก่อนจ่ายให้กับ ซามูเอล เอโต้ เจ้าตัวล็อกบอลเข้าเท้าซ้ายก่อนปั่นบอลสุดสวยเข้าประตูไป ให้ เชลซี ขึ้นนำเร็ว 1-0
หลังจากเสียประตู อาร์เซน่อล ยังไม่ดีขึ้นตั้งเกมไม่ติด และในนาทีที่ 6 เท่านั้นจากการเสียบอลในแดนกลาง เนมันย่า มาติช จ่ายให้กับ อังเดร ชูร์เล หลุดเข้ามายิงนอกกรอบเขตโทษเข้าไป ช่วยให้ เชลซี นำห่าง 2-0
นาทีที่ 9 ซามูเอล เอโต้ ได้รับบาดเจ็บ จนต้องเปลี่ยนตัวออก โดย มูรินโญ่ ส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงไปแทน
เกมผ่านมาในนาทีที่ 15 เชลซี ยังคงบุกกระหน่ำอย่างหนัก และ เป็นจังหวะที่ เอแด็ง อาซาร์ หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษก่อนยิงไปทางเสาสอง แล้วเป็น อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ที่ยืนคุมเส้นอยู่ตรงนั้นพุ่งเอามือไปปัดบอลออกหลัง กรรมการ อังเดร มาริเนอร์ เป่าให้ เชลซีได้จุดโทษ แล้วเหตุการณ์เริ่มงุนงงนิดหน่อย ระหว่างที่นักเตะทั้งสองทีมต่างเข้ามาคุยกับกรรมการ อังเดรมาริเนอร์ ดันไปให้ใบแดง คีแรน กิ๊บบ์ส แบบงงๆ ซะอย่างนั้น แทนที่จะเป็น อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ที่จงใจใช้มือปัดบอล นาทีที่ 15 เชลซีนำห่าง 3-0 จากจุดโทษของ เอแด็ง อาซาร์ เจ้าตัวเลือกยิงไปที่กลางประตู ส่วน วอยเชียค เชสนี่ พุ่งไปทางขวา
นาทีที่ 24 อาร์แซน เวนเกอร์ เปลี่ยนตัวผู้เล่นสำรอง โดยส่ง โธมัส แฟร์มาเล่น ลงไปแทน ลูคัส โพดอลสกี้
นาทีที่ 29 ดาวิด ลุยซ์ ตัดบอลจาก แชมเบอร์เลน ได้ที่กลางสนาม ก่อนที่เจ้าตัวจะลากเข้ามาแล้วกดเต็มแรงบอลไปแฉลบแนวรับ อาร์เซน่อล ก่อนที่ เชสนี่ จะพุ่งปัดออกหลังไปได้หวุดหวิด
นาทีที่ 41 แนวรับ อาร์เซนอล ยังคงผิดพลาดกันอีกครั้ง และเป็น เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ได้บอล ศูนย์หน้าชาว สเปน กระชากไปทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนปาดบอลเข้ากลางมาให้ ออสการ์ชาร์ตจ่อๆเข้าไป ช่วยให้ เชลซี นำห่าง อาร์เซน่อล 4-0
ช่วงท้ายเกม อาร์เซน่อล พยายามเล่นสวนกลับเร็ว แต่ยังได้แค่หวาดเสียว เท่านั้น เกมในวันนี้ "ปืนใหญ่" ยังต่อบอลกันได้ไม่ไหลลื่น ส่วนเจ้าบ้าน เชลซี ยังคงเล่นเกมรุกได้ดุดันตลอดทั้ง 45นาทีแรก จบเกมการแข่งขันในครึ่งแรก เชลซี 4-0 อาร์เซน่อล
เริ่มเกมในครึ่งหลัง อาร์เซน่อล เปลี่ยนตัวผู้เล่น 2 คนรวด ส่ง มาติเยอ ฟลามินี่ และ คาร์ล เจนกินสัน ลงไปแทนที่ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน กับ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ตามลำดับ
นาทีที่ 60 อาร์เซน่อล พยายามเปิดเกมมากขึ้น และ ซานติ กาซอร์ล่า เกือบจะทำประตูได้ จากจังหวะได้บอลในเขตโทษด้านซ้าย ก่อนที่เจ้าตัวจะยิงหวังให้บอลเข้าเสาสอง แต่บอลหลุดออกหลังไปนิดเดียว
นาทีที่ 66 กองเชียร์ "สิงโตน้ำเงิน-คราม" มาได้เฮกันลั่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ จากจังหวะที่ ออสการ์ ได้บอลนอกกรอบเขตโทษเจ้าตัวตัดสินใจยิงทันที บอลพุ่งเข้าตาข่ายไปแบบสวยงามหมดจดช่วยให้ เชลซี นำห่าง อาร์เซน่อล 5-0
นาทีที่ 67 เชลซี เปลี่ยนตัวทันที ส่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงไปแทน ออสการ์
นาทีที่ 71 เละเทะอย่างแท้จริง เมื่อ แนวรับ อาร์เซน่อล ดันขึ้นสูงแล้วโดน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่วิ่งสอดมารับบอล ก่อนจะหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ วอยเชียค เชสนี่ แนวรุกอียิปต์ยิงสวนตัว เชสนี่ เข้าไปตุงตาข่าย ช่วยให้เชลซี นำห่าง อาร์เซน่อล 6-0
นาทีที่ 72 เชลซี เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดท้าย ส่ง จอห์น โอบี มิเกล ลงไปแทนที่ ดาวิด ลุยซ์
ช่วงท้ายเกม เชลซี ยังคงครองบอลได้มากกว่า ด้าน อาร์เซน่อล ได้โอกาส อีกครั้งจากจังหวะยิงไกลของ โทมัส โรซิคสกี้ แต่ ปีเตอร์ เช็ก ยังเซฟเอาไว้ได้ จบเกมการแข่งขัน เชลซี เปิดบ้านไล่ถล่มอาร์เซน่อล 6-0 เก็บ 3 คะแนน พร้อมรั้งตำแหน่ง จ่าฝูงต่อไป
รายชื่อ 11 ตัวจริง เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ดาวิด ลุยซ์ ( จอห์น โอบี มิเกล น.72 ), เนมันย่า มาติช, อังเดร ชูร์เล, ออสการ์ ( โมฮาเหม็ด ซาลาห์ น.67 ), เอแด็ง อาซาร์, ซามูเอล เอโต้ ( เฟร์นานโด ตอร์เรส น.9 )
ตัวสำรอง : แฟรงค์ แลมพาร์ด, เดมบ้า บา, มาร์ค ชวาร์เซอร์, โทมัส คาลาส
รายชื่อ 11 ตัวจริง อาร์เซน่อล : วอยเชียค เชสนี่, บาการี่ ซาญ่า, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ( คาร์ล เจนกินสัน น.45 ), คีแรน กิ๊บบ์ส, มิเคล อาร์เตต้า, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ( มาติเยอ ฟลามินี่ น.45 ), โทมัส โรซิคสกี้, ซานติ กาซอร์ล่า, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, ลูคัส โพดอลสกี้ (โธมัส แฟร์มาเล่น น.24)
ตัวสำรอง : ลูคัส ฟาเบียนสกี้, ยาย่า ซาโนโก้, คิม คัลล์สตรอม, เซอร์เก กนาบรี
ผู้ตัดสิน : อังเดร มาริเนอร์