ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีม็อบปิดเนชั่นปี52

ศาลอุทธรณ์ นัดฟังคำพิพากษาม็อบคาราวานคนจน ล้อมเนชั่น เมื่อปี 2552 หลังศาลชั้นต้นจำคุกจำเลย 2 ปี

ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการ และ นายจักรกฤษ เพิ่มพูล พนักงานบริษัทเนชั่นฯ ผู้เสียหายร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายคำตา แคนบุญจันทร์ อดีตแกนนำสมัชชา
เกษตรกรรายย่อยภาคอีสาน (สกยอ.), นายอรรถฤทธิ์ สิงห์ลอ เลขาธิการคาราวานคนจน กับพวก เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ และทรัพย์สิน หรือใช้กำลังประทุษร้ายให้จำยอมกระทำสิ่งใด โดยร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป กระทำความผิด, กักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เพื่อให้ผู้อื่นกระทำการใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309, 310 ทวิ ประกอบมาตรา 83 และ 91 และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องกระจายเสียง พ.ศ.2493

จากกรณีที่ จำเลยทั้ง 6 ร่วมกันประกาศให้ประชาชน 1,000-3,000 คนปิดล้อมอาคารเนชั่นทาวเวอร์ เรียกร้องให้ผู้บริหารหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ส่งตัวผู้สื่อข่าวที่รายงานข่าวซึ่งกลุ่มของจำเลยอ้างว่าหมิ่นเบื้องสูง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงที่ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 24 มี.ค.2549 หากไม่ยินยอมจะปิดล้อมอาคารเนชั่น ทำให้พนักงานและคนในอาคาร กว่า 200 คน ไม่สามารถเข้า-ออกได้ จนผู้บริหารต้องจำยอมทำตาม ซึ่งในคดีนี้ ศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุกจำเลยคนละ 2 ปี และทนายความจำเลยทั้ง 6 ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว และใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์